24 เมษายน 2553

ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อบ้านและที่อยู่อาศัย 2.5% คงที่ 5 ปี


ข่าวดี ๆ สำหรับผู้ที่อยากมีบ้านใหม่ อยากซ่อมแซมบ้าน หรือ refinance หรือกิจการใดๆ เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ทางสำนักงานประกันสังคมร่วมกับธนาคารต่างๆ จัดโครงการสวัสดิการบ้าน สปส.เพื่อผู้ประกันตนขึ้น เป็นโครงการที่น่าสนใจมาก เพราะว่าดอกเบี้ยถูกมาก แค่ 2.5% ต่อปี คงที่ไป 5 ปี ถ้าเกิน 5 ปี ก็ใช้rate การคิดดอกเบี้ยตามแต่ละธนาคารที่ไปติดต่อ (ซึ่งถ้ามันแพงเราก็ไปจัดการ refinance หรือขอปรับดอกเบี้ยได้อยู่แล้ว) ซึ่งสิทธินี้สำหรับผู้ประกันตนเท่านั้น

ข้อแนะนำ
1. ควรไปถามเงื่อนไขปลีกย่อยของแต่ละธนาคารก่อน เพราะแต่ละที่มีหลักเกณฑ์ต่างกันไป
2. จากนั้นค่อยไปขอเอกสารจากประกันสังคมเพราะหนังสือรับรองมีอายุแค่ 30 วัน และที่สำคัญ ขอใช้ได้ครั้งเดียว ถ้าไม่ผ่านที่ใด จะไปยื่นที่อื่นไม่ได้แล้ว
3. ถ้าจะสอบถามรายละเอียดจะให้ดีถามที่ธนาคารจะดีกว่า
4. ประกันสังคมเป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลักประกันไม่เกี่ยวกับการอนุมัติจริงๆ การอนุมัติขึ้นกับธนาคารที่ไปติดต่อ
5. รีบหน่อยก็ดี มีหมื่นล้าน กู้ได้คนละ 1.5 ล้าน กู้ไม่กี่พันคนก็หมดแล้ว

รายละเอียดติดตามได้เลยจ้า

http://www.sso.go.th/wpr/content.jsp?lang=th&cat=98&id=1176
โครงการสวัสดิการบ้าน สปส.เพื่อผู้ประกันตน

เงื่อนไข
1. สิทธิเฉพาะผู้ประกันตน มาตรา 33 (มีนายจ้าง) ม.39 (ประกันตนเอง) ม.40 (แรงงานนอกระบบ)
2. ให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ขยายบ้าน ไถ่ถอน ต่อรายไม่เกิน 1,500,000 บาท
3. ดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกันตนร้อยละ 2.5/ปี คงที่ 5 ปี
4. ระยะเวลายื่นคำขอสินเชื่อและทำนิติกรรมของผู้ประกันตนต้องกระทำก่อนวันที่ 31 ธ.ค. 53 หรือเมื่อเต็มจำนวนแล้วแต่เงื่อนไขใดจะกำหนดถึงก่อน
5. หากผู้ประกันตนกู้เงินครบ 10,000 ล้านบาท จะเสนอคณะกรรมการต่อไป
6. ผู้ประกันตนที่ใช้สิทธิเข้าร่วมจะต้องดำรงสถานะเป็นผู้ประกันตนตลอดเวลาที่ใช้สิทธิตามโครงการ ภายในระยะเวลา 5 ปี

ขั้นตอน
1. ผู้ประกันตนขอเอกสารหนังสือรับรองสถานะที่ สนง.ประกันสังคม(ที่ไหนก็ได้ ถ้าไม่สะดวกทำหนังสือมองฉันทะให้คนอื่นไปแทนได้ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน + ค่าอากรแสตมป์ 10 บาท)
2. นำเอกสารการกู้พร้อมหนังสือรับรอบสถานะไปยื่นกับธนาคารที่ทำ MOU กับ สนง.ฯ โดยธนาคารจะแจ้งผลกับผู้กู้โดยตรง(ไม่เกี่ยวกับประกันสังคมแล้ว)
3. กู้ได้/ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของธนาคาร สนง.ฯ ประกันสังคมไม่เกี่ยวข้อง ถือเป็นดุลยพินิจของธนาคาร
**** สำนักงานประกันสังคมเขตสำนักงานใหญ่ 02 956-2345

ธนาคารที่ลงนาม MOU เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 53

1. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
3. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
4. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
5. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
6. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
7. ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
8. ธนาคารออมสิน
9. ธนาคารอาคารสงเคราะห์

05 เมษายน 2553

เก็บเงินได้เท่าไรกันแล้ว


แนะนำตัวกันก่อนแล้วกัน จริงๆ เราก็เขียนบล็อคเป็นปกติอยุ่แล้วใน space ใครสนใจก็ติดตามไปอ่านได้ แต่จะออกแนวจับฉ่ายไปเรื่อยเปื่อยตามแต่อารมณ์ มีความรู้บ้าง ไร้สาระก็เยอะ วีนแตกก็มาก พอมาช่วงหลังๆ เราก็ฝักใฝ่ไปทางการบริหารเงิน อยากมีเงิน อยากรวย ทำยังไงให้ได้เงิน เก็บเงินยังไงดี ลงทุนอะไรดี มันเลยเป็นที่มาของบล็อคนี้ ที่เราตั้งใจจะรวบรวมประสบการณ์ หรือความรู้ที่เราไปค้นเจอมามาแบ่งปัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณชน ไม่มากก็น้อย


หุหุ อ่านแล้วดูดีมากๆเลยใช่มะ อันนั้นเป็นปณิธาน แต่จะเขียนได้ดีอย่างที่เกริ่นหรือเปล่าก็ต้องติดตามดูกันต่อไป


เข้าเรื่องเลยดีกว่า

ถ้ามีคนมาถามว่า ตอนนี้เก็บเงินได้เท่าไรแล้ว คุณสามารถตอบได้อย่างภูมิใจหรือยัง?

ลองใครได้เจอคำถามแบบนี้คงมีเหวอกันมั่งล่ะนะ เพราะปกติจะเจอแต่เงินเดือนเท่าไรแล้ว มีบ้านหรือยัง ซื้อรถหรือยัง แนวนั้นมากกว่า แต่มันก็ล้วนแต่เป็นคำถามที่กดดันมนุษย์เงินเดือนน้อยๆ พ่อแม่ไม่รวย มรดกใดๆไม่มีอย่างเราเลื้อเกิน ก็ได้แต่แถไปเรื่อย ก็เงินเดือนมันน้อยมันจะมีเงินเก็บได้ยังไง เหตุผลนี้เราว่าคนส่วนใหญ่ใช้เป็นคำตอบหากินกันเลยทีเดียว


แต่ในซอกหลืบแห่งมนุษย์เงินเดือนน้อย เราพบว่า คนที่มีเงินเดือนน้อยกว่าเราตอนนี้เค้าเก็บเงินได้เป็นแสน ๆ แล้ว (พระเจ้า!!) ง้านเหตุผลที่เราใช้แถมาตลอดหลายๆ ปีมันใช้ไม่ได้แล้วสิ เอาไงละเนียะ อะไรไม่ว่าอย่าให้ได้อาย 5555 อายไม๊ล่ะ ทำงานมาตั้งนานไม่มีเงินเก็บ สมบัติใดๆก็ไม่มี มาคิดดูอีกที อืม เราเอาเงินไปทำอะไรหมดล่ะนั่น นั่นแหละเลยเป็นที่มาของการไขว่คว้าอยากมีเงินเก็บ ทำยังไง ทำยังไง เค้าทำได้ยังไง


อันดับแรกเราต้องตัดเหตุผลที่ว่ารอเงินเดือนเยอะก่อนแล้วค่อยเก็บเงินทิ้งออกไปจากหัวก่อนเลย เชื่อเถอะว่า ถึงมีเงินเดือนเยอะขึ้นค่าใช้จ่ายต่างๆมันจะเยอะขึ้นตามโดยมิได้ร้องขอ ดังนั้นเรามาหาทางบริหารเงินน้อยๆของเราน่าจะมีทางเป็นไปได้มากกว่า


อันดับต่อไปสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ให้เมมไว้ในหัวเลยว่าเราอยากมีเงินออม ต้องมีเงินเก็บให้ได้ ตั้งเป้าหมายก้อนเงินและระยะเวลาที่เก็บได้จะดีมาก ถ้าไม่มีปณิธานแรงกล้าพอจะสู้กับกิเลสทั้งหลายได้ อีกไม่นานก็จะกลับสู่วังวนเดิม


แค่สองอันดับนี้ไม่ต้องใช้อะไรทั้งสิ้น ใช้ใจล้วนๆ แค่คิดได้ก้อมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ส่วนจะเก็บยังไง จะบริหารยังไง จะหาเพิ่มยังไง จะลงทุนอะไรดี อะไรยังไง มาว่ากันต่อครั้งหน้า โปรดติดตาม ^ ^