06 ธันวาคม 2553

เช็คเครดิตบูโร ง๊าย ง่าย


สำหรับคนที่มีแผนการเงินในชีวิตแบบลุ้น ๆ แต่ละเดือน บางเดือนก็อารมณ์ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย น่าจะอยากรู้ประวัติเครดิตบูโรของตัวเองกันแน่ๆ ^ ^

เรามี 3วิธีง่ายๆ ที่จะเช็คเครดิตบูโรของตัวเอง

วิธีแรกที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำสุด ไปทำแล้วรอรับได้เลย ก็คือไปที่ศูนย์มันเลย นั่นเอง

ตั้งอยู่ที่
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (สำนักงานใหญ)่ ชั้น 2 อาคาร 2
เลขที่ 63 ถนนพระราม 9 ห้วยขวาง
กรุงเทพฯ 10320
โทรศัพท์ : 0-2643-1250 โทรสาร 0-2612-5895
อีเมล์ : consumer@ncb.co.th
วันเปิดทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00 น - 16.30 น.

คลิกดูแผนที่ http://www.ncb.co.th/images/ncb_branch.jpg

วิธีต่อมาสำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด คนที่ไม่มีเวลาว่าง คนที่มีเหตุผลต่าง ๆนาๆ ให้มีเหตุไปไม่ได้ ก็ไม่ต้องกลัวไป เราสามารถไปขอทำเรื่องเช็คเครดิตบูโรผ่านทางธนาคารได้ด้วย

โดยสามารถยื่นคำขอได้ที่
-บมจ.ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB)
-บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB)
-บมจ.ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) (ICBCT)
อย่างงกับคำว่า บมจ.ง่ายๆ ก็ไปธนาคารใดก็ได้ 3ที่ ข้างบนนั่นแหละ ที่สะดวก ในห้างก็ได้ ชำระค่าธรรมเนียม อาจจะแพงกว่าไปตรวจสอบที่ศูนย์นิดหน่อยแต่ก็ถือเป็นค่าดำเนินการของเค้าละกัน (ผ่านนครหลวงไทย เสียค่าใช้จ่าย 120 บาท) รอประมาณ 7-10 วัน จะส่งไปรษณีย์มาที่บ้านเลย

กรณีที่ใครเป็นบัตรเหลือง กรุณาเอาบัตรประชาชนเก่าที่เจาะรูแล้วไปด้วย เพื่อความไม่เสียเวลา เผื่อต้องใช้ ไม่แน่ใจว่าเป็นทุกที่หรือเปล่าแต่เราเคยไปติดต่อที่นครหลวงในห้างแล้วมีแต่ใบเหลืองเค้าไม่ยอม บังเอิญว่าตอนไปทำบัตรประชาชนใหม่ อำเภอไม่เห็นคืนบัตรเก่าเรามาเลย แอบเซ็งนะนั่น ไหนใครว่า บัตรเหลืองใช้แทนบัตรประชาชนได้ทุกประการไง -___-"

"ธนาคารจะทำหน้าที่เป็นเพียงตัวแทนบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ในการรับคำขอตรวจสอบและรับชำระค่าตรวจสอบ ซึ่งจะให้บริการเฉพาะเจ้าของข้อมูลที่เป็นบุคคลธรรมดาและต้องมายื่นขอตรวจสอบด้วยตนเองเท่านั้น โดยบริษัทจะเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลและจัดส่งรายงานข้อมูลเครดิตทางไปรษณีย์ลงทะเบียนให้แก่ท่าน ภายใน 1 สัปดาห์นับจากวันที่ท่านได้ยื่นคำขอที่ธนาคาร"

รายละเอียดเพิ่มเติม >> http://www.ncb.co.th/Chk_Bank.htm

วิธีสุดท้ายที่จะแนะนำสำหรับใครที่คิดไว้แน่แล้วว่าพฤติกรรมการใช้เงินเราติดเครดิตบูโรแน่ๆ อยากรู้แต่จะไปยื่นที่ศูนย์ หรือไปธนาคารก็อ๊าย อาย (คนอื่นเป็นไงไม่รู้ แต่ถ้าเป็นเรา แอบอายเล็กน้อย แหะๆ) หรือสำหรับใครที่เจอกรณีมีแต่บัตรเหลือง บัตรประชาชนเก่าหายไปหมดแล้ว เรามีวิธีที่ง๊าย ง่ายมาบอก หลายคนยังไม่รู้ คือการขอผ่านเอทีเอ็ม!! เลิศไม๊ล่ะ ^^

สามารถยื่นขอได้ 2 ธนาคาร คือ กรุงไทย กับ ไทยพาณิชย์ โดย
-บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) สำหรับลูกค้าของธนาคารที่ถือบัตร ATM และบัตรเดบิต
-บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สำหรับลูกค้าของธนาคารที่ถือบัตร ATM , บัตรเดบิต และบัตรเครดิต (ที่ใช้เป็นบัตรเอทีเอ็ม)

(click) ขั้นตอนการใช้บริการผ่านตู้ ATM ของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย
(click) ขั้นตอนการใช้บริการผ่านตู้ ATM ของ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์

จัดไปตามสะดวกเลยนะค้า
ปล.ที่บอกมาทั้งหมดนี้สำหรับกรณีบุคคลธรรมดานะจ๊ะ

ที่มา:http://www.ncb.co.th/Default.htm
----------------------------------------------------------
update 20110703: 
พอดีแว๊บไปดูเว็บ ncb อีกรอบเห็นมีเพิ่มช่องทางขึ้นมาอีก เช่น ที่ BTS ศาลาแดง ที่ City advance 4สาขา หรือแม้กระทั่งธนาคารบนมือถือ และที่สำคัญมีค่าใช้จ่ายมาให้เห็นพร้อมสรรพ เลยเอามาฝากเพิ่มให้จ้า 
ที่มา :http://www.ncb.co.th/Chk_Consumer.htm

----------------------------------------------------------
update 20120305
เพิ่มเติมแหล่งเช็คเครดิตบูโรจ้ะ เผื่อไว้เป็นทางเลือก ใครสะดวกทางไหนจัดไปได้เลย
ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2555 เราสามารถไปขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรผ่านทางธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)ได้แล้วทุกสาขาทั่วประเทศ ค่าธรรมเนียมฉบับละ 150 บาท และจะส่งข้อมูลให้ลูกค้าภายใน 7 วัน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดโครงการ "ธอส. เป็นตัวแทนให้บริการรับคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป

โดยระยะแรกประชาชน (ประเภทบุคคลธรรมดา) สามารถยื่นคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต ผ่านเคาน์เตอร์ให้บริการของธนาคารได้ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยต้องมาด้วยตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่สาขาจะเป็นผู้รับคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด โดยบันทึกข้อมูลส่งให้บริษัทเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และจัดส่งข้อมูลให้กับลูกค้าต่อไปภายใน 7 วัน ค่าธรรมเนียมการขอตรวจสอบฯ ฉบับละ 150 บาท เริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป
ที่มา : http://thainews.prd.go.th/view.php?m_newsid=255502140179&tb=N255502


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโครงการ “ธอส.เป็นตัวแทนให้บริการรับคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด"  ได้ที่
-บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” โทร 0 – 2643 – 1250 หรือ www.ncb.co.th 
-ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โทร. 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th

update 20120516
เดี๋ยวนี้เราสามารถเช็คผ่านทาง internet banking ได้แล้วนะคะ เท่าที่รู้ตอนนี้มีที่กรุงศรีออนไลน์ ถ้ามีที่อื่นเพิ่มเติมจะเอามาฝากอีกทีจ้า

- - - - - - - - - - -
บทความน่าสนใจ
          เช็คเครดิตบูโรง๊าย ง่ายกับธนาคารกรุงไทย
          เช็คเครดิตบูโรง๊าย ง่าย ที่นวนคร
          เช็คเครดิตบูโรง๊าย ง่าย กับกรุงศรีออนไลน์

20 ตุลาคม 2553

LTF กับ 5ปีปฎิทิน


ว่ากันง่ายๆอีกที LTF ก็คือกองทุนรวมรูปแบบหนึ่งที่พิเศษตรงที่ผู้ลงทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ก็มีเงื่อนไขด้วย ซึ่งเงื่อนไขที่เด่นที่สุดก็คือ

ใช้ลดหย่อนภาษีได้แค่ปีที่ซื้อ และเมื่อซื้อแล้วต้องถือไปอีก 5 ปีปฎิทินถึงจะขายหน่วยลงทุนนั้นได้
(ให้ถือไปอีก 5ปีปฎิทิน คือห้ามขาย ไม่ใช่ลงทุนเพิ่มทุกปีไป 5ปีนะ
)

5ปีปฏิทิน คืออะไร
ปกติถ้าเราพูดว่า 5 ปี เราจะหมายถึง การนับเดือนชนเดือน เช่น ถ้าเริ่มนับวันแรกเป็นวันที่ 1 ธ.ค. 2553 จะครบ 5 ปี ตอนวันที่ 30 พ.ย. 2558 แต่ถ้าเราบอกว่า 5 ปีปฏิทิน จะหมายถึงการนับจำนวนปีจากเฉพาะตัวเลขปี พ.ศ. ไม่ดูเดือน เช่น ถ้าเริ่มนับวันแรกเป็นวันใดก็ได้ในปี 2553 จะครบ 5 ปีปฏิทิน ตอนวันที่ 1 ม.ค. 2557

ดังนั้น ถ้าเราจะถือครอง LTF ให้สั้นที่สุด เราก็ซื้อ LTF วันที่ 31 ธ.ค. 2553 แล้วไปขายวันที่ 1 ม.ค. 2557 ก็จะถือเป็น 5 ปีปฏิทินแล้ว

แต่ก็ต้องระวังนิดนึง เพราะกองทุน LTF จะเปิดให้เราขายได้ แค่ 2 ครั้งต่อปี ในช่วงเวลาที่กองนั้นๆกำหนด เพราะฉะนั้น ถ้ากองที่เราซื้ออยู่ไม่ได้เปิดให้เราขาย ตอนต้นๆปี เราก็จะขายไม่ได้ ต้องรอไปจนถึงเวลาที่ทางกองทุนกำหนด

ส่วนวันที่ซื้อถ้าจะให้ครบปีปฎิทินเร็วๆ ก็ต้องดูว่าวันทำงานสุดท้ายของบลจ.ของปีนั้นเป็นวันที่เท่าไร ซึ่งก็อยากจะให้ข้อมูลเพิ่มสำหรับคนที่ชอบมาซื้อปลายปีว่า โดยมากตลาดหุ้นราคาช่วงปลายปีมักจะสูงกว่าต้นหรือกลางปี (เพราะคนส่วนมากชอบมาซื้อ LTF กันตอนปลายปี ทำให้ราคายิ่งสูงขึ้น) ไม่ต้องงงว่าทำไมไปเกี่ยวอะไรกับตลาดหุ้น อย่าลืมว่า LTF หลักๆเลยคือเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้น ราคากองทุนมันก็ต้องอ้างอิงตลาดหุ้นเป็นธรรมดา

ถ้าขายก่อนจะเกิดอะไรขึ้น
เราจะต้องคืนเงินภาษีทั้งหมดที่ได้รับการยกเว้นในปีที่เราซื้อนั้น + ดอกเบี้ย และต้องนำกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนไปรวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย

เมื่อการผิดเงื่อนไขการลงทุนแล้ว ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกต่อไป และต้องดำเนินการดังนี้
1. ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้นไป เฉพาะยอดเงินลงทุนที่ขายคืนพร้อมเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน โดยนับตั้งแต่เดือน เมษายน ของปีที่ผู้ลงทุนยื่นขอยกเว้นภาษี จนถึงเดือนที่มีการยื่นคืนเงินภาษี ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรยื่นขอคืนเงินภาษีพร้อมเงินเพิ่มทันที ที่มีการทำผิดเงื่อนไขการลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงรอบชำระภาษีตามปกติ
2. ต้องจ่ายภาษีของกำไรส่วนเกินทุน (capital gain) โดยนำกำไรที่ได้รับจากการขายคืนไปรวมเป็นเงินได้ของปีที่ขายคืนเพื่อเสียภาษีเงินได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเมื่อผู้ลงทุนขายคืน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ของกำไรส่วนเกินทุนไว้ก่อน
ที่มา :
http://www.sec.or.th/infocenter/report/Content_0000000743.jsp?categoryID=CAT0000292&lang=th

ยกเว้นในกรณีที่ผู้ลงทุนเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจะถือว่าไม่ผิดเงื่อนไขการลงทุน

ส่วนถ้าใครครบ 5ปีแล้วยังไม่ขาย จะรอให้ราคาหน่วยลงทุนสวยๆก่อนแล้วค่อยขายก็ไม่ว่ากัน

อ้อ อันนี้หลายคนไม่รู้ เค้าห้ามขายก่อน 5 ปีปฎิทิน แต่ระหว่างนั้นเราสามารถสับเปลี่ยนสลับไปมาระหว่าง กอง LTF ด้วยกันได้นะ นอกจากนี้ยังสามารถ โอน LTF ของเราไปยังกอง LTF ของ บลจ. อื่นได้ด้วย ไม่ผิดเงื่อนไขแต่อย่างใด

อันนี้เป็นตัวอย่างการสับเปลี่ยน และตัวอย่างอื่นๆ ตามไปอ่านกันเองนะ

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2010/03/I9047384/I9047384.html
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9820477/I9820477.html
http://www.aimc.or.th/80aimc_webboard_detail.php?question=Q0612261907bzbxMTkwNy16ei0x

คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน!!

16 ตุลาคม 2553

LTF คืออะไร


ไหนๆก็เกริ่นเรื่อง LTF สามารถนำมาใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ถึงแค่ปี 2559 กันไปแล้ว วันนี้มาเข้าเรื่องเกี่ยวกับ LTF ให้ลงลึกกันอีกหน่อยดีกว่า ใกล้จะสิ้นปีแล้วด้วย

LTF(ย่อมาจาก Long Term Equity Fund)หรือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว เป็นกองทุนรวมแบบพิเศษที่ให้สิทธิผู้ลงทุนนำเงินลงทุนในแต่ละปีมาใช้ลดหย่อนภาษีได้

โดยสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15%ของรายได้ในแต่ละปีแต่ต้องไม่เกิน 500,000บาท ซื้อปีไหนก็ใช้ลดหย่อนภาษีของปีนั้น(ซึ่งปีนี้ก็จะหมดเขต 31ธ.ค.นี้)แต่ต้องถือต่อไปอีกให้ครบ 5ปีปฏิทินถึงจะขายคืนได้

ยิ่งฐานภาษีสูงมากก็ยิ่งประหยัดได้มาก

ซึ่ง LTF แต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนก็จะมีรายละเอียดแยกย่อยแตกต่างกันไป เช่น สัดส่วนการลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้,มีปันผล,ไม่มีปันผล,ลงทุนในตลาด SETหรือ MAI แต่หลักๆ คือต้องมีการนำไปลงทุนในหุ้นด้วย

วันนี้ขอยกตัวอย่างกองทุน LTF ของบลจ.ไทยพาณิชย์ กับ บลจ.กสิกรมาให้ดู เพื่อช่วยในการตัดสินใจ ใครรับความเสี่ยงได้น้อยก็เลือกที่ลงในหุ้นน้อยๆแล้วกันนะ

LTF ของบลจ.ไทยพาณิชย์
มีทั้งหมด 6กองทุน แบ่งเป็น 2รูปแบบตามความเสี่ยง

เสี่ยงน้อย ด้วยลักษณะกองทุนที่ออกแบบมา เพื่อลดความผันผวนจากหุ้นให้ต่ำลง
SCBLT1 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30
:: มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: จะมีสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 70% ที่เหลือจะเป็นตราสารหนี้

SCBLTS - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท
:: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: มีการลงทุนใน SET50 Index Futures ในทิศทางที่ใช้หักล้างกับตลาดหุ้น ทำให้ลดความผันผวนจากตลาดหุ้นได้เกือบ 40%


เสี่ยงมาก ด้วยลักษณะการลงทุนในหุ้นอย่างเต็มที่ แต่ในบางช่วงเวลาก็จะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนบ้างเล็กน้อย
SCBLT2 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส
:: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: ลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 ที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ประมาณ 90%

SCBLT3 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ
:: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: กระจายการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย
: กลุ่มหุ้น SET50 ประมาณ 40%
: กลุ่มหุ้นที่อยู่ในกลุ่มล่างของ SET100 และ MAI ประมาณ 40%
: ที่เหลือประมาณ 20% จะปรับเปลี่ยนตามสภาวะการณ์ รวมถึงมีการลงทุนใน SET50 Index Futures ด้วย


SCBLT4 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์
:: มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: มีการกระจายไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศประมาณ 5 - 10% (SCBPGF, SCBAEM)

SCBLTT - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต
:: มีนโยบายการจ่ายปันผล
:: เป็นรูปแบบผสมที่หลากหลายการลงทุน เหมือนเป็นตัวรวมของ LTF ทั้ง 5 กองทุนข้างต้น

LTF ของบลจ.กสิกร มี 6 กองทุน
เริ่มตั้งแต่กองทุน LTF ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด ไปยัง LTF ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนี้

1) เค 20 ซีเล็คท์ หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ลงทุนในหุ้นขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 20 บริษัท มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้น โดยเลือกเฉพาะหุ้น ที่มีศักยภาพสูง 20 อันดับแรก

2) เค โกรท หุ้นระยะยาวปันผล (KGLTF) ลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง มีนโยบายจ่ายปันผล
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเจริญ เติบโตสูงในอันดับต้นๆ

3) เค หุ้นระยะยาว (KEQLTF) ลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ไม่จ่ายปันผล
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้น โดยกระจายการลงทุนในหลายๆ กลุ่มอุตสาหกรรม

4) เค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) ลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้น โดยกระจายการลงทุนในหลายๆ กลุ่มอุตสาหกรรม

5)เค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) ลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 70 มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นได้บ้าง

6) เค สตราทีจิค ดีเฟ็นซีฟ หุ้นระยะยาวปันผล (KSDLTF) ลงทุนในหุ้น และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงจากหุ้นมีนโยบายจ่ายปันผล
เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นได้น้อยมาก


ส่วนรายละเอียด LTF ของบลจ.อื่นๆไปหาเพิ่มกันเอาเองนะจ๊ะ ^^

หลักการเลือกบลจ.ก็เหมือนๆกับซื้อกองทุนทั่วไปตามที่เคยเขียนไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น ดูความสะดวกในการซื้อ ดูผลประกอบการณ์ ฯลฯ อ้อ มีตารางแสดงผลการดำเนิงงานกองทุนมาเป็นตัวช่วยพิจารณาให้ด้วย คลิกตามลิงก์ไปเลยนะจ๊ะ

ตารางแสดงผลการดำเนินงานกองทุน LTF

แล้วครั้งต่อไปจะมาเจาะลึกกันลงไปอีก วันนี้ยาวไปละ เดี๊ยวจะขี้เกียจอ่านกันซะก่อน

ฝันดีจ้า

02 ตุลาคม 2553

สลากออมสินซื้อยังไง


สลากออมสินเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการออม ที่ปลอดภัย เงินต้นไม่สูญ สามารถลุ้นรางวัลได้ทุกเดือนตลอดอายุสลาก แล้วถ้าสนใจต้องไปซื้อที่ไหน ซื้อยังไง และที่สำคัญจะขายต้องไปขายที่ไหน
เรามีมาบอกค่ะ อ่านต่อ



27 กันยายน 2553

LTF นำมาลดหย่อนภาษีได้ถึงเมื่อไร


จะบอกว่าว่างจัดหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ก็นั่งเสริชโน่นนี่ หาอะไรอ่านไป เลยไปได้เจ้านี่มา ก็เลยเอามาแบ่งให้อ่านกัน ไหนๆก็ดันให้เล่นกองทุนกันมาแล้ว มาสนใจ LTF กันด้วยจะเป็นไร

ช่วงที่ผ่านมา มีหลายท่านถามว่า "ได้ยินว่า เงินที่นำมาซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF จะนำมาหักลดหย่อนภาษี ได้จนถึงปี 2550 เท่านั้นหรือ????"

ข้อเท็จจริง คือ

1.DEADLINE เรื่อง 30 มิถุนายน 2550 เป็นระยะเวลาสิ้นสุดที่ บลจ. ต่างๆจะตั้งกองทุน LTF กองใหม่ๆได้

คือ ถ้า บลจ. ต่างๆ จะจัดตั้งกองทุน LTF กองใหม่ๆ ขึ้น ต้องทำให้เรียบร้อยภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2550 (กฎหมายกำหนดว่า บริษัทจัดการกองทุนรวม ต้องนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว มาจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2550 )

ดังนั้น DEADLINE เรื่อง 30 มิถุนายน 2550 จริงๆ เป็นเรื่องของ บลจ. ต่างๆ ในการจัดตั้ง LTF กองทุนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 30 กองทุน ภายใต้การจัดการของ 18 บลจ.

ปี 2550 จึงไม่ใช่ กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดที่ผู้ลงทุนจะนำค่าซื้อ LTF ไปหักภาษีเงินได้

2.ผู้ลงทุนใน LTF สามารถนำค่าซื้อหน่วยลงทุนของ LTF ไปหักลดหย่อนภาษีได้ถึง ปี2559

คือ ถ้าท่านผู้ลงทุน ลงทุนตามเกณฑ์ของ LTF อย่างถูกต้อง ก็ยังสามารถนำเงินค่าซื้อ LTF ไปหักลดหย่อนภาษีได้ โดยลงทุนซื้อ LTF ในปีใด ก็นำไปหักลดหย่อนภาษีได้ เฉพาะปีที่ซื้อเท่านั้น ทำอย่างนี้ได้เรื่อยไป จนถึงปี2559 ค่ะ


และจะลงทุนกับ LTF กองใดๆ ของ บลจ.ใดๆ ก็ได้สิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีตามที่กฎหมายกำหนดเหมือนกัน

และอย่าลืมว่า เงื่อนไขข้อหนึ่งที่กฎหมายกำหนด คือผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนของ LTF ที่ซื้อแต่ละยอดนั้นไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน โดยในปีสุดท้าย คือ ปี2559 ที่เราจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ LTF นี้ ผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในปี2559 ก็ต้องถือหน่วยลงทุนยอดที่ซื้อในปี2559 นี้ไปอีก 5 ปีปฏิทิน คือ ถือไปจนถึงปี2563 จึงจะถือว่าปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

ที่มา: http://www.jarataccountingandlaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=425535&Ntype=6

แล้วจะทะยอยหาข้อมูล LTF ภาคต่อมาฝากละกันนะจ๊ะ ^^

26 กันยายน 2553

ถ้ารู้ (กู) ทำไปนานแล้ว


มีหนังสือใหม่มานำเสนออีกแล้วจ้า จะเรียกว่าใหม่ก็คงไม่ใหม่เท่าไรเพราะล่าสุดตีพิมพ์ครั้งที่ 20แล้ว แต่มันใหม่สำหรับเรา เพราะเพิ่งซื้อมาสดๆร้อนๆเมื่อวาน เนื่องจากว่าช่วงหลังๆมานี่ต้องจำกัดการซื้อหนังสือเล็กน้อย เลยไม่ค่อยแวะเข้าร้านหนังสือ พอดีเมื่อวานฝนตกไม่มีที่ไปเลยขลุกอยู่ในร้านหนังสือ ลัลล้ามาก โน่นก็น่าซื้อ นี่ก็น่าซื้อ ^ ^ แล้วก็ได้เจอกับหนังสือเล่มนี้ขอยืมคำมาใช้หน่อยแล้วกัน ....ถ้ารู้ (กู)ซื้อไปนานแล้ว 555

ถามว่าหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับเงินๆทองๆยังไง
อืม.. จะว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยวมั้งเพราะออกแนวธรรมมะ จะว่าเกี่ยวก็น่าเกี่ยวเหมือนกันเพราะอ่านแล้วก็ชวนให้กะตุกคิดได้เหมือนกันว่าทำไม๊ ทำไม ทำดีแทบตาย ทำงานโคตรหนัก ไหงไม่รวยซักที ไอ้พวกทำงานสบาย ๆ ขี้เกี๊ยจ ขี้เกียจ เช้าสองชาม เย็นสามชามทำไมมันได้ดีเอา ได้ดีเอา

เริ่มสนใจแล้วใช่ไม๊ล่ะ

ผู้เขียน ณัฐพบธรรม
ราคา 259 บาท
ทำไมบางคนทำอะไรก็มีแต่เจริญรุ่งเรือง ?
บางคนเป็นคนดี ทำไมยังไม่ได้ดี ยังไม่รวยสักที ?
บางคนเป็นคนดี คนรวยอยู่แล้ว แต่ทำไมอยู่ๆ ก็จนลงอย่างน่าใจหาย ?
คนจำนวนมากค้นหาคำตอบ แต่คุณกำลังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้คำตอบจากหนังสือเล่มนี้


**เคล็ดลับการทำบุญที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปทุกชาติ**
ค้นพบหลักประกันชีวิตดีๆ ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
สะสมความดี เพิ่มดอกเบี้ยความรวย
รู้จักเกราะคุ้มกันเรื่องบุญ บาปที่ง่ายและถูกต้อง
เริ่มวันนี้เพื่อเสริมความมั่นใจ มั่นคง มั่งคั่งให้ชีวิตคุณ เมื่ออ่านจบแล้วคุณจะอุทานเหมือนชื่อหนังสือ


ถ้าสนใจไปหาอ่านหาซื้อกันได้นะจ๊ะ แล้วเราก็จะรวยๆไปด้วยกันเนาะ
อ้อ นี่เป็นอีกหนึ่งรีวิวหนังสือเล่มนี้ ตามไปอ่านได้นะจ๊ะ(ของใครไม่รู้ ^^)
- Review: ถ้ารู้ …(กู)… ทำไปนานแล้ว


= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

ประกาศจ้า

บล็อกนี้จะไม่เขียนเพิ่มแล้วนะคะจะไปอัพเดทที่เว็บใหม่เลย

แฟนคลับอย่าลืมตามไปให้กำลังใจด้วยน้า

ตามไปอัพเดทบทความใหม่ๆ ได้ที่ www.บริหารเงิน.com นะคะ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =


22 กันยายน 2553

เงินออมเกษียณมั่งคั่ง 3


มีโครงการออมเงินสำหรับผู้สูงอายุมาฝาก พอดีเห็นแต่ข่าว ส่วนรายละเอียดต่างๆ คงต้องสอบถามทางธนาคารกันเองนะ

"ธ.ก.ส. ผุดเงินออมเกษียณมั่งคั่ง 3 หนุนผู้เกษียณสร้างหลักประกันตนเอง "
ธ.ก.ส.ผุดโครงการเงินออมเกษียณมั่งคั่ง 3 ดึงวัยเกษียณสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้ตนเอง ตั้งเป้ารับฝาก 30,000 ล้านบาท ให้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.25-4.75 ต่อปี

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เปิดรับฝากเงิน “โครงการเงินออมเกษียณมั่งคั่ง 3” เพื่อช่วยเหลือข้าราชการ พนักงานองค์การของรัฐ หรือพนักงานหน่วยงานอื่นๆ ที่เกษียณอายุตามปกติหรือเกษียณอายุก่อนกำหนดในปี 2553 และบุคคลทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป รวมถึงทดแทนเงินฝากในโครงการเงินออมเกษียณมั่งคั่ง 2 ของ ธ.ก.ส. ที่กำลังจะหมดอายุ ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เกษียณสามารถวางแผนจัดสรรเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่าง มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้เกษียณอายุที่ต้องอาศัยดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อการดำรงชีพ
สำหรับเงื่อนไขการฝากเงินกับ “โครงการเงินออมเกษียณมั่งคั่ง 3” ผู้ฝากต้องฝากเงินไม่น้อยกว่า 100,000 บาท ระยะเวลาการฝาก 4 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 – 30 กันยายน 2557 อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ปีที่ 1 ร้อยละ 3.25 ต่อปี ปีที่ 2 ร้อยละ 3.50 ต่อปี ปีที่ 3 ร้อยละ 3.75 ต่อปี และปีที่ 4 ร้อยละ 4.75 ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี

นายเอ็นนูกล่าวอีกว่า ในส่วนของการจ่ายดอกเบี้ย ธ.ก.ส. จะจ่ายเป็นรายเดือน โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อให้ผู้ฝากสามารถเบิกถอนไปใช้จ่ายได้อย่างสะดวกเสมือนมีเงินเดือนใช้ทุกเดือน โดยจะเริ่มเปิดรับฝากตั้งแต่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2553 นี้เท่านั้น เป้าหมายการรับฝาก 30,000 ล้านบาท

กรณี มีผู้สนใจร่วมฝากเงินจำนวนมากและครบตามเป้าหมาย ธ.ก.ส. จะปิดการรับฝากทันที ทั้งนี้ หากผู้ฝากถอนเงินหรือปิดบัญชีก่อนครบกำหนดระยะเวลาหรือก่อนวันที่ 30 กันยายน 2557 ธ.ก.ส. จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม การถอนเงินร้อยละ 1 ของต้นเงินที่ถอน แต่ไม่น้อยกว่าครั้งละ 500 บาท ยกเว้น การถอนเงินฝากกรณีผู้ฝากเสียชีวิต และกรณีที่ผู้ฝากถอนเงินฝากแล้วมียอดเงินฝากคงเหลือต่ำกว่า 100,000 บาท ธนาคารจะคัดบัญชีออกจากโครงการเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษปกติของธนาคาร

ติดต่อสอบถาม
ธ.ก.ส. Call Center 0-2555-0555
อีเมล์: callcenter@baac.or.th

ที่มา:http://www.baac.or.th/content-news.php?content_id=011300&content_group=0003&content_group_sub=0001&inside=1

19 กันยายน 2553

ไปเพิ่มความเร็วเน็ต TOT กันมาหรือยัง


วันนี้จะมาแจ้งข่าวให้ทราบว่าตอนนี้ TOT ออกโปรใหม่แล้วนะจ๊ะ อาจจะช้าไปบ้างเพราะโปรนี้ว่าไปก็ออกมาหลายเดือนแล้ว แต่เชื่อสิว่ายังมีอีกหลายบ้านที่ยังไม่รู้

เป็นปกติที่ทาง TOT จะไม่แจ้งบอกว่ามีโปรอะไรออกมาบ้าง เราต้องคอยติดตามข่าวสารแล้วก็ไปขอเปลี่ยนโปรโมชั่นเอง เปลี่ยนฟรีค่ะ เคยไปเปลี่ยนมาแล้วระหว่างรอบด้วย ตราบใดที่เราจะเพิ่มสปีด แต่ถ้าลดสปีดเสียตังส์แน่นอน ถ้าไม่มั่นใจลองโทรถาม call center 1100 หรือดูเงือนไขในลิงก์ที่แนบมาก็ได้

สาเหตุที่จะเปลี่ยนไม่ได้ก็น่าจะมีแต่แถวนั้นสปีดสูงยังเข้าไปถึง เช่น แถวที่บ้านเรา ป่านนี้ 3M ยังเข้าไม่ถึงเลยจ้า (แอบประกาศและประนามเล็กน้อย) ชาวบ้านเค้า 4M 6M กันไปละ ไอ้เรายังต้องจำใจใช้ 2M อยู่เลย ไม่อยากจะบอกว่าอยู่แถวไหน เดี๊ยวจะไม่เชื่อกันว่าเน็ตเข้าไม่ถึง เหอๆๆ

TOT hi-speed internet แพ็กเกจ “Jet Pack”
6 Mb 590 บาท
วันนี้ ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2554

สิทธิพิเศษ

1.ค่าบริการรายเดือนตั้งแต่รอบบิลที่ 13 - 60 จะได้รับส่วนลด 5%
2.รับสิทธิ์แลกซื้อ Dual Port Modem ราคา 390 บาท หรือ Wireless Modem ราคา 890 บาท

ฟรี !
■ค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือค่าเปลี่ยนแพ็คเกจ 1,000 บาท
■ค่าติดตั้งโทรศัพท์ประจำที่ มูลค่า 3,350 บาท (ขึ้นอยู่กับรายการส่งเสริมการขายของพื้นที่นั้นๆ)

หมายเหตุ : โปรดศึกษารายละเอียดก่อนสมัครใช้บริการ
( เฉพาะพื้นที่ที่ร่วมรายการส่งเสริมการขายและพร้อมให้บริการเท่านั้น )

สอบถามข้อมูล โทร 1100 TOT call center
อย่าช้ากันนะจ๊ะสำหรับใครที่ยังไม่ได้ไปเปลี่ยน จะยอมเสียตังส์แพงเท่าคนอื่นแต่ได้ความเร็วน้อยกว่าคนอื่นไปทำไม จัดไป

11 กันยายน 2553

ดอกเบี้ยได้กับได้ ธ.ไทยพาณิชย์


มีโปรโมชั่นฝากประจำ“ได้กับได้”ของธนาคารไทยพาณิชย์มาฝากจ้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย – 31 ต.ค. 53

" ธนาคารไทยพาณิชย์ออกแคมเปญบัญชีเงินฝากประจำ “ได้กับได้” มอบอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5%ต่อปี โดยรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นทุก 6 เดือน เดือนที่ 1-6 รับดอกเบี้ย1%ต่อปี เดือนที่ 7-12 รับดอกเบี้ย 2% ต่อปี เดือนที่ 13-18 รับดอกเบี้ย 3%ต่อปี เดือนที่ 19-24 รับดอกเบี้ย 5%ต่อปี พร้อมกันนี้ยังมอบสิทธิพิเศษให้อิสระในการถอนเงินเมื่อไหร่ก็ได้ โดยถอนเงินในช่วงใดก็ได้รับอัตราดอกเบี้ยในช่วงนั้น ไม่โดนปรับ ยิ่งฝากยาว ดอกเบี้ยยิ่งมาก เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10000 บาท หลังจากนั้นหากยังอยากฝากเพิ่มก็สามารถฝากเพิ่มได้ขั้นต่ำ 1000 บาท ไม่จำกัดขั้นสูง "

หลังจากเปิดบัญชีแล้ว ถ้าอยากฝากเพิ่มก็สามารถฝากเพิ่มได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ หลังจากนี้อีก 2ปีไม่ให้ฝากเพิ่ม (หมดโปรโมชั่นนี้แล้วนั่นเอง) ให้ถอนได้อย่างเดียว และง่ายยิ่งขึ้นกับคนที่ใช้ SCB easy net สามารถนำเลขบัญชีไปเพิ่มไว้ใน SCB Easy Netได้ด้วยโดยเลือกบัญชี เงินฝากประจำ ถ้าอยากฝากเพิ่มก็สามารถโอนเงินจากออมทรพย์ ไปฝากเพิ่มได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคารอีกรอบ ซึ่ง SCB Easy Net ยังใช้ตรวจสอบดอกเบี้ยที่เปลี่ยนไปเมื่อขึ้นเดือนที่ 7 ได้ด้วย

ทำความเข้าใจกันก่อนว่าโปรนี้เป็นฝากประจำดังนั้นต้องมีการหักภาษี 15%ณ ที่จ่ายด้วย ดังนั้น ดอกเบี้ยที่เราจะได้สุทธิจริงๆก็คือ
เดือนที่ 1-6 อัตราดอกเบี้ยสุทธิ 0.85% ต่อปี
เดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ยสุทธิ 1.7% ต่อปี
เดือนที่ 13-18 อัตราดอกเบี้ยสุทธิ 2.55% ต่อปี
เดือนที่ 18-24 อัตราดอกเบี้ยสุทธิ 4.25% ต่อปี
ทำให้เฉพาะดอกเบี้ยที่ได้รับตลอด 24 เดือน เฉลี่ยอยู่ที่อัตรา = (0.85 + 1.7 + 2.55 + 4.25) / 4 % ต่อ 2 ปี = (9.35 / 4)% ต่อปี = 2.3375% ต่อปี  

ตัวอย่าง
เราฝากประจำ"ได้กับได้" 1แสนบาท ดอกเบี้ยหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ก่อนโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ เดือนที่ 1-6 ดอกเบี้ยที่ 1% ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน ได้ดอกเบี้ย = (1 แสน x 1% / 2) = 500 บาท หัก ภาษี ณ ที่จ่าย 15% เหลือโอนเข้าออมทรัพย์ = 500 x 0.85 = 425 บาท

เดือนที่ 7-12 ดอกเบี้ยที่ 2% ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน ได้ดอกเบี้ย = (1 แสน x 2% / 2) = 1,000 บาท หัก ภาษี ณ ที่จ่าย 15% เหลือโอนเข้าออมทรัพย์ = 1,000 x 0.85 = 850 บาท เดือนที่ 13-18 ดอกเบี้ยที่ 3% ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน ได้ดอกเบี้ย = (1 แสน x 3% / 2) = 1,500 บาท หัก ภาษี ณ ที่จ่าย 15% เหลือโอนเข้าออมทรัพย์ = 1,500 x 0.85 = 1,275 บาท

เดือนที่ 18-24 ดอกเบี้ยที่ 5% ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน ได้ดอกเบี้ย = (1 แสน x 5% / 2) = 2,500 บาท หัก ภาษี ณ ที่จ่าย 15% เหลือโอนเข้าออมทรัพย์ = 2,500 x 0.85 = 2,125 บาท

(อย่างงกันล่ะว่าทำไมต้องหารสอง เพราะอัตราดอกเบี้ยเราว่ากันเป็นต่อปี แต่ระยะคิดดอกเบี้ย 6เดือน ก็ต้องหารสองนั่นเอง)

รวมดอกเบี้ยโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ = 425 + 850 + 1,275 + 2,125 = 4,675 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนระยะเวลา 24 เดือน = 4,675 / 100,000 = 4.675% คิดเป็นอัตราต่อปี = 4.675% / 2 = 2.3375 %ต่อปี คิดเป็นอัตราต่อปีแบบทบต้น = (1 + 4.675%)1/2 - 1 = 2.3108 %ต่อปี

ฝากประจำ ดอกเบี้ย 5% (ฝากประจำ ได้กับได้) แบบนี้จะดีในระยะยาว ที่ดอกเบี้ยก้าวถึงขั้น 3% ต่อปีขึ้นไป (ตั้งแต่เดือนที่ 13 เป็นต้นไป) ข้อดีคือ ดอกเบี้ยเฉลี่ยยังถือว่าสูงสำหรับกลุ่มฝากประจำ 24 เดือนด้วยกัน และถ้ามีเหตุฉุกเฉินต้องถอนออกมาจริงๆ ก็ยังคงได้รับดอกเบี้ยทั้งที่ได้ไปแล้ว ไม่ต้องคืน รวมถึงช่วงเวลาล่าสุดก็ยังได้รับดอกเบี้ยตามกำหนด ไม่ถูกลดดอกเบี้ยลงไป

นี่เป็นเพียงโปรโมชั่นดอกเบี้ยขั้นบันไดของไทยพาณิชย์ เห็นหลายๆธนาคารเริ่มมีโปรแบบนี้เหมือนกันลองคำนวนแบบข้างบนเปรียบเทียบดูเองแล้วกันว่าสุทธิแล้วที่ไหนให้เยอะกว่ากัน อ้อ อีกอย่างสำหรับผู้ฝากที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี หรืออายุผู้ฝากไม่น้อยกว่า 55 ปีบริบูรณ์ และมีดอกเบี้ยรวมทั้งหมดตลอดปีภาษี ไม่เกิน 30,000 บาท จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีในส่วนของดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินฝากประจำที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ก็จะสามารถขอภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15%คืนจากสรรพากรได้ ซึ่งก็จะทำให้เฉลี่ยได้ 2.75% เต็มๆ

04 กันยายน 2553

อีกครั้งกับตลาดนัดกองทุนรวม


เอาใจชาวฝั่งธน อีกครั้งสำหรับตลาดนัดกองทุนรวม ใครพลาดครั้งก่อน หรืออยากเพิ่มทุน หรืออยากลงทุนกองใหม่ๆ อย่าพลาดงานนี้

16-19 กันยายน 2553 10.00-20.00 น
เดอะมอลล์บางแค ชั้น G Event Hall

รับโปรโมชั่นดีๆ 2 ต่อ

ต่อที่ 1 เมื่อลงทุนในกองทุนรวมกับ 13 บลจ.ที่บูธในงาน

ต่อที่ 2 โปรโมชั่นพิเศษจากโครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม

รายละเอียดคลิกเข้าไปดูกันเองละกันนะจ๊ะ
-http://www.set.or.th/th/highlight_flash/files/20103108mff.jpg

ที่มา:www.set.or.th/

สำหรับมือใหม่ แค่จะให้ไปติดต่อขอเปิดกองทุนก็งงๆแล้ว แล้วเวลาเจ้าหน้าที่ถามว่าจะเปิดกองทุนอะไรจะเลือกอะไรดีล่ะ มีตั้งหลาย บลจ. แถมลงทุนสารพัดที่ สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ อาจจะเริ่มแรกด้วยกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ไว้เป็นตัวยืนก่อน หนึ่งคือความเสี่ยงต่ำสุดแล้ว และสองเพื่อสะดวกในการสับเปลี่ยนไปกองทุนอื่นๆ ระยะเวลาจะสั้นกว่าการซื้อขายผ่านบัญชี

วันนีขอหยิบยกผลการดำเนินการกองทุนรวมที่ชาวพันทิพย์เค้าวิเคราะห์ไว้ให้มาให้ดูเผื่อเลือก เปรียบเทียบแต่ละกองทุนของทุกบลจ.ที่ลงทุนในตราสารหนี้

ยกตัวอย่างมาของเดือนสิงหาคม 53 และของเดือนกรกฎาคม 53

หวังว่าจะช่วยให้มือใหม่มีกำลังใจที่จะเริ่มต้นกันนะจ๊ะ

22 สิงหาคม 2553

ซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี


สำหรับใครที่อยากมีบ้าน การประมูลบ้านมือสองกับกรมบังคับคดีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราสามารถมีบ้านได้ในราคาที่อาจจะต่ำกว่าราคาท้องตลาด บางที่สภาพบ้านก็อาจจะใหม่กิ๊กอยู่เลย

วันนี้ไม่ได้จะมาบอกวิธีการ หรือขั้นตอนการติดต่อเพื่อจะซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี แต่จะมาเตือนสำหรับใครที่อยากจะซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี ซึ่งส่วนใหญ่คนที่จะซื้อมักจะนึกไม่ถึงจุดนี้เป็นเหตุให้เมื่อซื้อบ้านแล้วมีปัญหาตามมา นั่นก็คือ บ้านที่จะซื้อยังมีคนอาศัยอยู่

ก็เป็นที่เดากันได้ว่าบ้านจากกรมบังคับคดี ต้องมีเหตุไรซักอย่างทำให้โดนยึดมา ซึ่งเจ้าบ้านอาจยินยอม หรือไม่ทันได้ยินยอมก็เป็นได้ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นกรณีหลังคือ ไม่ยินยอม

ดังนั้นก่อนตัดสินใจเข้าประมูลควรสำรวจทรัพย์ที่ต้องการซื้อให้ละเอียดที่สุดก่อน สภาพบ้าน รวมถึงยังมีคนอาศัยอยู่หรือไม่ ถ้าบ้านที่เราถูกใจไม่มีคนอยู่อาศัยแล้วก็ถือว่าโชคดีมาก ดำเนินการประมูลได้อย่างสบายใจ เพราะจะได้ไม่ต้องมาฟ้องขับไล่กันทีหลัง

แต่ถ้าไปสำรวจแล้วพบว่ายังมีคนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นลองเข้าไปเจรจากับผู้อาศัยดูก่อนว่าหากเราสามารถซื้อบ้านได้ เค้ายินยอมที่จะย้ายออกหรือไม่ ความยากง่ายในการเจรจาส่วนมากขึ้นกับผู้อาศัยเองหากผู้อาศัยไม่มีที่ไปจริงๆหรือยังรักและหวงทรัพย์อยู่ก็จะเจรจายากมากๆ ก็ตัดสินใจเอาละกันว่าจะไปยื้อแย่งของสุดหวงเค้ามา เค้าก็คงไม่ยอมง่ายๆเหมือนกัน มีกรณีตัวอย่างมาให้อ่านเล่น ๆด้วย
- แชร์ประสบการณ์ จากการซื้อบ้านของกรมบังคับคดี
- เจ้าของเก่าไม่ยอมออก

14 สิงหาคม 2553

ระวังโดนหลอกซื้อขายทอง


20100814

ช่วงนี้กระแสทองมาแรงแซงโค้ง ขอโหนกระแสไปด้วยละกัน จริงๆ ก็อยากพูดถึงเรื่อง gold future,mini gold future ก่อนนะ ตอนแรกก็ไม่รู้จักเหมือนกันว่ามันคืออะไรแต่เห็นโฆษณาในทีวีบ่อยๆ ด้วยความอยากรู้เลยไปสืบเสาะรายละเอียดมาพอจะรู้เรื่องบ้างแล้ว แต่ลำดับความสำคัญแล้ว เรื่องที่จะพูดถึงนี่สำคัญกว่า ขอเล่าก่อนละกัน

ได้มีคำเตือนออกมาจากสมาคมค้าทองคำให้ระวังโดนหลอกขาย gold future ต่างประเทศ ซึ่งมักจะมาในรูปแบบมีพนักงานโทรมาชวนเปิดพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศ เป็นจำนวนเงินหลายแสนบาท โดยครั้งแรกอาจจะแนะนำให้เราเล่นได้กำไรมากก่อนเพื่อให้ลูกค้าตายใจ และหลังจากนั้นจะแนะนำให้เล่นผิดทาง หลอกให้เราเติมเงินเพื่อรักษา margin เรื่อย ๆ แล้วก็ปิดบริษัทหนีเพื่อไปเปิดบริษัทใหม่คล้ายแชร์ลูกโซ่

รายละเอียดต่าง ๆ มีครบถ้วนกระบวนความ รวมถึงหลายๆคนที่เคยตกเป็นเหยื่อมาเล่าให้ฟังด้วย ตามไปอ่านได้ตามหัวข้อข้างล่างเล้ย

จากสมาคมค้าทองคำประกาศเตือนอย่าหลงเชื่อลงทุนทองคำและฟิวเจอร์ส ตปท

จากบทสัมภาษณ์ คุณพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ ให้ระวังตุ๋นซื้อทองผ่านเนท

จากเว็บบอร์ด thaigolddotinfo ระวังการชักชวน Trade Gold online

นี่หยิบมาแค่ไม่กี่ลิงก์นะเนียะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้เหมารวมว่า gold future หลอกลวงนะ แต่หมายถึงก่อนลงทุนใดๆ ทุกชนิดควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน ที่เน้นๆ ว่าควรระวังก็ตรงที่ถ้ามีโทรศัพท์ หรือเมลมาชวน หรือแม้กระทั่งเพื่อนมาชวนเล่นก็อย่าเพิ่งเชื่อ สอบถามไปที่สมาคมค้าทองคำก่อน สามารถตรวจสอบได้ ไม่งั้นเงินที่คิดว่าจะได้มาง่ายๆ ก็อาจจะไปได้ง่ายๆเหมือนกัน

สมาคมค้าทองคำ
9/1 อาคาร 4 ชั้น 2 ถนนเสือป่า เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ 10100
โทร 02 6232301-3 email: contact@goldtrader.or.th
http://www.goldtraders.or.th/

ระวังกับการลงทุนกันด้วยนะจ๊ะ

12 สิงหาคม 2553

ใช้สิทธิ์แลกซื้อสุดคุ้ม


20100812
เดาไม่ถูกกันเลยใช่ม้าว่าจะพูดถึงเรื่องอะไร วันนี้เราจะมาพูดถึงการใช้สิทธิ์แลกซื้อสุดคุ้มที่ 7-11 กัน ไม่ได้นะ เล็กๆน้อยๆเราก็ต้องเก็บให้หมด ไม่ได้งกนะจ๊ะแค่กลัวเสียของ หุหุ

ทุกวันนี้น้อยคนนักที่จะไม่เข้าเซเว่น ซื้อมากซื้อน้อยก็แล้วแต่ ซึ่งช่วงนี้ 7-11มีโปรโมชั่น ซื้อสินค้าครบ 40 บาท ได้รับ 1 สิทธิ์แลกซื้อสุดคุ้ม หมดเขต 25 สค 53 สิทธิ์จะติดมากับใบเสร็จด้วย สามารถนำมาแลกสินค้าตามที่จัดรายการอยู่

ไม่ต้องกลัวว่าจะหาได้ที่ไหน เราเอามาฝากแล้ว
http://www.cpall.co.th/html/corp_0810.pdf

จัดไปให้คุ้มกันเลยนะค้า

07 สิงหาคม 2553

ตรวจสลากออมสิน


แนะนำให้ซื้อกันก็เยอะแล้ว หาที่ตรวจรางวัลกันได้หรือเปล่า สำหรับมือใหม่หัดซื้อ เลยเอาแหล่งตรวจรางวัลมาบอก จริงๆ ก็ไม่ได้ไปตรวจที่ไหนไกลหรอก เข้าไปตรวจที่เว็บของธนาคารออมสินนั่นแหละ


ธนาคารออมสิน http://www.gsb.or.th/ --> เลือกตรวจรางวัลสลากออมสิน(ด้านบนซ้ายมือ) แล้วจะมีเป็นป๊อบอัพขึ้นมา มันผลุบๆโผล่ๆ นิดหน่อยสำหรับใครที่ชอบเล่นซ่อนหา ส่วนตัวไม่ค่อยชอบแบบนี้เท่าไร บางทีกรอกข้อมูลจะเสร็จอยู่ละ เผลอเอาเมาส์ไปวางที่อื่น มันหายไปซะงั้นต้องมานั่งคลิก กรอกใหม่ ปวดหัวมากสำหรับวัยรุ่นอย่างเรา ^^ ทำตามรูปที่เป็นกรอบสีน้ำเงินเลย ส่วนใครอยากได้แบบใบตรวจหวยแต่ละงวด เอ่อ เอาใหม่ๆ เค้าเรียกใบตรวจรางวัลสลากออมสินสิเนอะ ให้คลิกตามรูปที่เป็นกรอบสีแดง จะโชว์ผลรางวัลงวดล่าสุดให้

สำหรับใครที่เบื่อป๊อบอัพผลุบๆโผล่ๆแบบเรา เรามีที่ตรวจสลากออมสินทางเลือกมาให้ ง่ายกว่ากันเยอะ
http://pscinq.gsb.or.th/PSCINQ/actions/PscInput.do
หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ ตรวจได้เฉพาะออมสินพิเศษนะจ๊ะ

อยากได้อะไรอีก บอกมาเดี๊ยวไปจัดหามาให้
รวย ๆ แล้วอย่าลืมกันน้า
----------------
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
-สลากออมสินพิเศษ 3 ปี ไม่กินทุน ได้ลุ้นโชค
-ซื้อสลากออมสินดีมั้ย
-ระหว่าง สลากออมสิน กับ สลาก ธกส. อะไรดี
-ตรวจสลากออมสิน

06 สิงหาคม 2553

ฝากเงินที่ธนาคารไหนดี


(ข้อมูลอัพเดทเดือน สค. 53) ช่วงนี้จะเอาเงินไปฝากที่ไหนดีน้า ที่ไหนให้ดอกเบี้ยเยอะมั่งน้า วันนี้เลยรวบรวมเท่าที่หาได้จัดมาให้ ถ้าจะดูแบบคร่าวๆ ตามไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเลย http://www.bot.or.th/thai/statistics/financialmarkets/interestrate/_layouts/application/interest_rate/in_rate.aspx แบบเจาะลึกหน่อยแต่ละธนาคาร ธนาคารกรุงเทพ http://www.bangkokbank.com/Bangkok%20Bank%20Thai/Documents/Site%20Documents/Interest%20Rates/DepositRates_28Jul2010.pdf ธนาคารกสิกรไทย http://www.kasikornbank.com/TH/RatesAndFees/Deposit/History/Deposit19072010.pdf ธนาคารไทยพาณิชย์ http://www.scb.co.th/img/th/rate/deposit.pdf ธนาคารกรุงไทย http://www.ktb.co.th/upload/interest_rates/de/de19_07_53.pdf ธนาคารทหารไทย http://www.tmbbank.com/cms/data/rates/pdf/DP-132-20072010-TH.pdf ธนาคารกรุงศรีอยุธยา http://www.krungsri.com/th/banking-rates.aspx ธนาคารนครหลวงไทย http://www.scib.co.th/th/rate_fee/document/T1_21-7-10.pdf ธนาคารธนชาต http://www.thanachartbank.co.th/TbankCMSFrontend/RateTH.aspx?rateid=4 ธนาคารยูโอบี http://www.uob.co.th/announcement/deposite-rates/2010/02Aug2010_th.pdf ธนาคารซีไอเอ็มบี http://www.cimbthai.com/website/upload/content/000000000016836/documents/Deposit_2_2553_FDR_PB_T.pdf ธนาคารเกียรตินาคิน http://www.kiatnakin.co.th/content_new/file_rate_fee/RateTH-2010-07-30_fid429.pdf ธนาคารทิสโก้ http://www.tisco.co.th/RatesAction.do?command=view ธนาคารออมสิน http://www.gsb.or.th/interest/index.php ธนาคารอาคารสงเคราะห์ http://www.ghbank.co.th/th/rate/rate_deposit_th.htm#1 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ http://www.baac.or.th/content-rate.php?content_group=9&content_group_sub=1 ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ http://www.lhbank.co.th/index.php ธนาคารอิสลาม http://www.ibank.co.th/2010/FileUpload/Rate/FileTh10.pdf ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย http://www.tcrbank.com/public/file/deposit_n6_230710.pdf ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) http://www.icbcthai.com/writeable/upload/deposits_rate_archive/deposits_rate_2010-07-08_th.pdf ครบหรือเปล่าเนียะ ^^ เลือกตามใจชอบเลยนะ ส่วนใครมีเงินเยอะแล้วกังวลไม่กล้าฝากเงินธนาคารเล็กๆ หรือกลัวธนาคารล้มอะไรต่างๆนาๆ อันนี้อาจจะลดความกังวลลงได้ เพราะสถาบันคุ้มครองเงินฝากยังคงคุ้มครองเงินฝากที่ 100% ไปจนถึงปีหน้าจะฝากประจำ 12 เดือนกี่ล้านบาทก็สบายใจได้

สนุกกับการออมเงินกันนะค้า

01 สิงหาคม 2553

วันแม่นี้พาแม่นั่ง BTS ฟรีกัน


กิจกรรมดี ๆ ในวันแม่ 12สค53
http://www.bts.co.th/th/news/news_detail.asp?id=180


อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแม่แล้ว คิดกันหรือยังว่าจะพาแม่ไปไหนดี สำหรับใครที่จะพาแม่เที่ยวในกรุงเทพ ไปสบายๆ ชิล ๆ ไม่ต้องฝ่าฟันไปกับรถติด ขอแนะนำ BTS

"รถไฟฟ้าบีทีเอสได้จัดกิจกรรมให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อแม่ ด้วยการเอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกัน และเป็นการสนับสนุนสถาบันครอบครัวให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยลูกสามารถพาแม่โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรี ตลอดสายทุกเส้นทาง ตั้งแต่เวลา 06.00 น.– 24.00 น. ซึ่งแม่และลูกจะต้องขึ้น/ลงสถานีเดียวกันเท่านั้น ติดต่อขอรับคูปองเดินทางฟรีได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทั้ง 25 สถานี นอกจากนี้ บริษัทฯได้ยกเว้นค่าโดยสารสำหรับเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม.ด้วย"

อ้อ ถ้าใครยังไม่รู้จะพาแม่ไปไหนดี เราก็มีทางเลือกให้ แหล่งที่เที่ยวตามเส้นทางรถไฟฟ้า อาทิ พิพิธภัณฑ์บ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ลงสถานีช่องนนทรี หรือจะใช้บริการแพคเก็จท่องเที่ยวทางเรือของ เรือด่วนเจ้าพระยา ชมทิวทัศน์อันสวยงามของ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ลงที่สถานีสะพานตากสิน พาแม่ทำบุญที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร หรือ ชมโลกใต้น้ำที่สยามโอเชี่ยนเวิร์ล ลงสถานีสยาม ชมพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด ลงสถานีพญาไท พิพิธภัณฑ์บ้านจิมทอมป์สัน และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร รายละเอียดเพิ่มเติม ตามลิงก์ไปเลยจ้า http://www.bts.co.th/th/tourist_02.asp

หรือสอบถามศูนย์ฮอตไลน์บีทีเอส 0-2617-6000ได้เลยจ้า

25 กรกฎาคม 2553

ขายตรงในฝัน


ในฝันในที่นี้เราหมายถึงในฝันตรงตัวเลย คือเป็นขายตรงที่ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ เพราะอะไร ในเมื่อระบบดี สินค้าก็แสนจะดี ?? คงมีคำตอบในใจกันอยู่แล้วไม่อธิบายไรซ้ำเติมละนะ มาเข้าเรื่องที่จะพูดดีก่า พอดีเมื่อเช้าไปอ่านกระทู้ดราม่าเข้า ประมาณว่าคบกับแฟนอยู่ แฟนเป็นคนดีมาก แต่พอเค้าพบกับขายตรงเจ้านึง แล้วเค้าก็เปลี่ยนไป บลา บลา บลา...

วันนี้เลยอยาก(บังอาจ)แนะนำสำหรับใครที่กำลังคิดจะรวยทางนี้ ไม่ให้เสียเพื่อน ไม่ให้เสียโอกาสที่ควรจะได้ และไม่ให้เสียเวลาที่อุตส่าทุ่มเทไป (ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เกริ่นเล้ย 555)

1 หาบริษัทที่ไม่หลอกลวง มีสินค้าดีจริง มีระบบดีจริงให้เจอก่อน
ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่เยอะ หาได้ไม่ยาก ถ้าไม่มั่นใจตรวจสอบได้จากในเว็บเนี่ยแหละ สงสัยตรงไหนเสิรชกูเกิลมีคำตอบให้มากมาย อ่านไม่หมดเลยทีเดียว

2 ดูว่าสินค้าลักษณะใด เหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตของเรา
บางคนไม่มองเรื่องนี้แต่เราว่ามันก็สำคัญเหมือนกันนะ สาว ๆที่ชอบแต่งหน้า แต่งตัว ขายตรงพวกเครื่องสำอางค์ก็น่าจะรุ่งอยู่เพราะวันๆก็ขลุกอยู่กับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ขายได้ไม่ได้ก็อยู่กับหน้าตาที่แต่ง ถ้าแต่งออกมาเจิดมาก จากสาวพื้นๆเป็นสาวเกาหลีได้ โอกาสขายของได้มีมากมาย ว่าไปสาว ๆบางคนก็ไม่คิดไรมากหรอก จะบำรุงไร 7 ชั้น จะมีนวัตกรรมไรมหัศจรรย์ สรุปสุดท้ายคือ แล้วออกมามันสวยไม๊ล่ะต่างหาก

ชาวนาชาวสวนจะให้ไปขายอุปกรณ์ไฟฟ้าก็ใช่ที่ ลูกค้าน้อยคนนักที่จะเชื่อมั่นและยอมซื้อ ก็หาขายตรงที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรที่เราคุ้นเคย ใช้ไปขายไป ลัลล้า เพราะยังไงก็ใช้อยู่แล้ว ตัวเรากล้าใช้ของที่เราขายก็เป็นการการันตีระดับนึง ผลผลิตที่ได้ก็การันตีตอกย้ำเข้าไป จริงๆแค่นี้ก็มีคนมาถามหาถึงบ้านแล้วว่าใช้อะไร ง่ายเนาะ

3 หาบริษัทที่ไม่ต้องทำยอดรักษาตำแหน่ง หาที่ได้ตำแหน่งแล้วได้เลย
ที่บอกว่าค่ารักษายอด ยังไงก็ได้สินค้ามา ยังไงก็ต้องใช้อยู่แล้ว ถามจริงๆ ว่าใช้จริง ๆหรือเหตุการณ์มันบังคับให้ใช้ ถ้าเค้าไม่บังคับให้รักษายอดจะซื้อไม๊ การที่ต้องเสียค่ารักษาตำแหน่งเพื่อให้ได้ยอดจากลูกทีม ไปๆมาๆ เครือข่ายของคุณก็จะเป็นเครือข่ายในฝัน เพราะคนใหม่ๆ ถ้าทำแล้วไม่ได้เห็นรายได้ แถมต้องเสียเงินทุกเดือน ๆ ไปกับการรักษายอดอีก ไม่นานเค้าก็จะไป อีกอย่างมันจะมีอิสรภาพได้ยังไงถ้ายังต้องตามรักษายอดทุกเดือน

4 ต้องเป็นคนมีไฟในตัวเอง จุดไฟให้ตัวเองได้พอสมควร ไม่หวังพึ่งแม่ทีมหรือลูกทีม
ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ต้องยุ่งกับคนล้วน ๆ โอกาสที่จะท้อ สิ้นหวัง จากคำปฎิเสธ ดูถูก ถากถางมากมายนัก แม่ทีมหรือลูกทีมไม่สามารถมาคอยจุดไฟเราได้ตลอดเวลา อีกอย่างเท่าที่สังเกตุ สายไหนแม่ทีมมีไฟตลอดเวลา ลูกทีมก็จะฮึกเหิมตาม สายไหนแม่ทีมเอื่อยเฉื่อย ลูกทีมก็จาเนือยตามๆกันมาแล้วก็ล้มหายตายจากกันไป

5 จะขายของก็บอกไปเลยว่าขายของไม่ต้องอ้อมค้อมหรอก เพราะสุดท้ายก็ขายของนั่นแล่ะ ถ้าของดีจริงต้องขายได้สิ ที่หลายๆ คนเสียเพื่อน เสียแฟน โดนเลิกคบเพราะไปหลอกล่อ เชิญชวนต่าง ๆ นาๆ ไม่พูดความจริงนี่ล่ะ อาศัยความเกรงใจชาวบ้านมาทำให้ตัวเองรวย ไม่ดี ๆ

6 อันนี้ต่อจากข้อ 5 หัดมีความเกรงใจ จริงใจ รักจะเป็นนักขาย(อย่าปฎิเสธเลยว่าไม่ได้ขาย)ก้อต้องศึกษาหัวใจนักขาย หัวใจการบริการ ไม่รู้ใครถ่ายทอดวิชาไอ้ที่ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกให้กับการขายตรง ไม่ซื้อไม่ไป ก็โอเคนะถ้าคุณอยากได้ยอดแรกและยอดสุดท้ายในเวลาเดียวกัน เพราะความประทับใจมันไม่มี เค้าซื้อเพราะตัดปัญหามันจะได้ไปๆ ซะ แต่ต่อไปเค้าจะปิดประตูไม่แม้แต่จะให้โอกาสได้พูดคุยเลยทีเดียว

7 ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย
จากที่เคยฟังแผนธุรกิจเครือข่ายมาก็เยอะไม่ยักกะมีที่ไหนบอกให้ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย หรือเค้ากลัวรู้ว่าจะจ่ายมากกว่ารับ จริงๆมันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ อย่างแค่คุณไปขายน้ำดื่มที่ตลาดนัด คุณลงทุนเท่าไร กำไรเท่าไร คุณจะคิดไม๊ แต่ทำไมพอมาทำขายตรงกลับไม่คิดกัน สอนกันแต่ว่าธุรกิจมันต้องลงทุน แต่ไม่บอกด้วยว่า ควรจะจด ควรคำนวณ และหาเวลาคุ้มทุนให้ได้ ค่าโทรศัพท์ ค่าเดินทาง ค่าสินค้าทดลอง ค่ารักษายอด นี่ไม่ถือเป็นเงินที่เสียจากการทำธุรกิจหรอ ถ้ามีแต่จ่าย ๆๆ มากกว่ารับทุกเดือน ขอให้เลิกธุรกิจนั้นซะ มันไม่เหมาะกับคุณแล้วล่ะ ถึงแผนจะดี สินค้าจะดี คนอื่นเค้าทำได้แต่มันอาจจะไม่ใช่คุณที่ทำได้ อย่าทู่ซี้เลย

8 ข้อสุดท้าย(ที่นึกออกตอนนี้)ควรตั้งเป้าของตัวเองให้เห็นผลภายใน 1 ปี
ธุรกิจทั่วๆไปเค้ายังวางแผนกันเลยว่าทำกี่ปีถึงจะคุ้มทุน ธุรกิจเครือข่ายมันก็เป็นธุรกิจเหมือนกัน ถ้าแววว่าคุณจะทำได้ มันเห็นตั้งแต่ 3-6 เดือนแรกแล้วล่ะ แต่ให้เป็นอย่างช้า 1ปี เผื่อเวลาดื้อดึงไม่ยอมรับตัวเอง หรือเผื่อมีปาฎิหาริย์ ยอมตัดใจออกมามองหาอย่างอื่นที่เหมาะกว่าเพื่อไม่ให้เสียเงินและเสียเวลาไปกว่านี้จะดีกว่า เหมือนเล่นหุ้นถ้ารู้ว่าจะขาดทุนแน่ๆ ก็ต้องทำใจ cut loss เสียตอนนี้ดีกว่าหมดตัว

อ้อ อันนี้ขอร้องสำหรับใครที่เข้าสุ่ธุรกิจนี้แล้ว ขอร้องจริงๆใครที่มีความคิดว่าต้องทุ่มเทอย่างหนักจะได้สำเร็จ อนาคตจะพาพ่อแม่ ลูก แฟนไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ตอนนี้หน้าตาแทบไม่เห็นกันเลย ขอให้หันไปถามคนรอบข้างที่คุณรักก่อนว่าเค้าต้องการแบบไหนระหว่าง ขอทุ่มงานหนักแทบไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกันเลย แล้วอีก 3 ปีข้างหน้า(อาจ)จะสบายทั้งครอบครัว พาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศ กับ แบ่งเวลาให้กับงาน ให้กับครอบครัวเท่าๆกัน จริงๆ ของแบบนี้มันเดินไปด้วยกันได้นะ ทำไมจะต้องเลือกอย่างใดอย่างนึง แล้วคิดเผื่อบ้างหรือเปล่าว่าสมมุติอีก 3 ปีคุณสำเร็จคนรอบข้างคุณจะยังอยู่ให้เห็นกันครบ

พ่อแม่ทุกคนถ้าไปถามจริงๆก็คงแค่อยากให้ลูกมีงานทำที่มั่นคง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ มีเวลามาดูแลใส่ใจพ่อแม่ พาพ่อแม่ไปหาหมอยามป่วยไข้ แค่นี้ก็ถือว่ากตัญญูแล้ว ไม่รู้ใครปลูกฝังว่าต้องรวยๆๆ ต้องพาไปเที่ยวต่างประเทศถึงจะเป็นลูกกตัญญูได้

ที่พูดมาทั้งหมดนี่เป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ไม่ได้ต้องการจะดิสเครดิตขายตรงใดๆ แต่สำหรับเราอะไรก็ดีหมดนะ แผนก็ดี สินค้าก็ดี แต่เราเบื่อสังคมจอมปลอมของวงการนี้จิงๆ รับไม่ได้อย่างแรง ขอเป็นลูกค้าอย่างเดียวพอละกัน

สำหรับคนที่จะเข้าสู่วงการนี้ ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ขายตรงว่าง่าย ก็ไม่ง่าย ว่ายากก็ไม่ยาก จับให้ถูกทาง รักจะขายก็ใส่หัวใจนักขายลงไปด้วย แล้วจะได้รับรุ้ถึงพลังเครือข่ายที่ว่า "ไม่รู้เงินที่ได้มา มันมาจากทางไหน" สู้ๆ ^^

ธนาคารปรับอัตราดอกเบี้ย


เริ่มเห็นมีทยอยปรับกันไปแล้วก็เลยรวบรวมเท่าที่หาได้มาฝาก เริ่มที่ไทยพาณิชย์ก่อนละกัน มีผล 15 กค 53 ปรับแต่อัตราดอกเบี้ยฝากประจำ ส่วนเงินกู้ยังเท่าเดิม -ฝากประจำ 3 เดือน จาก 0.65 % เป็น 0.75% , -ฝากประจำ 6 เดือน จาก 0.65% เป็น 0.90% -ฝากประจำ 12 เดือน โดยฝากน้อยกว่า 5 ล้านบาท จาก 0.65% เป็น 1% และฝากตั้งแต่ 5 ล้านบาท เป็น 1.20% -ฝากประจำ 24 เดือน จาก 1.50 % เป็น 1.75% -ฝากประจำ 36 เดือน จาก 1.75% เป็น 2.00% สำหรับนิติบุคคล -ฝากประจำ 3 เดือน จาก0.50% เป็น 0.60 % -ฝากประจำ 6 เดือน จาก 0.50 % เป็น 0.75 % -ฝากประจำ 12 เดือน ต่ำกว่า 5 ล้านบาทเพิ่มจาก 0.50 %เป็น 0.85 % และตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ปรับขึ้นเป็น 1.05% -ฝากประจำ 24 เดือน จาก1.25 %เป็น1.50% -ฝากประจำ 36 เดือน จาก1.50% เป็น 1.75% สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังไม่เปลี่ยน โดยอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ลูกค้าชั้นดี แบบมีระยะเวลา(MLR) 5.85% , อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 6.15% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 6.45% ธนาคารกรุงไทย มีผล 16 กค 53 ปรับทั้งอัตราดอกเบี้ยฝากประจำ และ เงินกู้ ฝากประจำ 3 เดือน จากอัตรา 0.65% ต่อปี เป็น 0.90% ต่อปี ฝากประจำ 6 เดือน และ 12 เดือน จากอัตรา 0.65% ต่อปี เป็น 1.00% ต่อปี ฝากประจำ 24 เดือน จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.75% ต่อปี ฝากประจำ 36 เดือน จาก 1.75% ต่อปี เป็น 2.00% ต่อปี ด้านดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ปรับจาก 5.875% ต่อปี เป็น 6.00% ต่อปี MOR ปรับจาก 6.125% เป็น 6.250% และ MRR ปรับจาก 6.45% ต่อปี เป็น 6.60% ต่อปี พร้อมเพิ่มทางเลือกลูกค้าเงินฝาก ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นเงินฝากประจำ 39 เดือน ให้อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี (ฝากขั้นต่ำ 50,000 บาท) และตั๋วแลกเงินอายุ 39 เดือน ให้อัตราดอกเบี้ย 3.30% ต่อปี (ฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท) โดยจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน เริ่ม 19 กค 53 ธนาคารกรุงเทพ ปรับอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ มีผล 19 กค 53 ฝากประจำ 3 เดือน จาก 0.750% เป็น 0.875% ฝากประจำ 6 เดือน จาก 0.750% เป็น 1.000% เงินฝากประจำ 12 เดือน จาก 0.750% เป็น 1.250% ฝากประจำ 24 เดือน จาก 1.500% เป็น 1.750% ฝากประจำ 36 เดือน จาก 1.750% เป็น 2.000% สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR จาก 5.875% เป็น 6.000% ,MOR จาก 6.125% เป็น 6.250% ,MRR จาก 6.375% เป็น 6.500% อัตราดอกเบี้ยสูงสุดยังคงเป็นอัตราเดิม กรณีปกติเท่ากับ 11.500% และกรณีผิดนัดชำระหนี้เท่ากับ 15.000% มีผลตั้งแต่ 19 กค 53 ส่วนธนาคารอื่น ๆเดี๊ยวหาข่าวมาฝากนะจ๊ะ

11 กรกฎาคม 2553

ราคากองทุนต่างกัน เลือกกองทุนไหนดี


ต่อยอดจากครั้งที่แล้ว ถ้าใครไปงานตลาดนัดกองทุนรวมมา หรือมือใหม่มากๆ อาจมีงงกันได้ อะไรเนียะ กองทุนเยอะไปหมด แล้วจะเลือกอะไรดี

สิ่งแรกเลย คือเลือกกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนตรงกับความต้องการของเราก่อน เช่น ยอมรับความเสี่ยงได้น้อยมาก แต่ก็อยากได้ผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์อาจจะไปเล่นกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร หรือยอมรับความเสี่ยงสูงได้ แต่ไม่มีเวลานั่งดูหุ้นก็อาจเลือกกองทุนที่ลงทุนในหุ้น ไรพวกนี้ เป็นต้น

ซึ่งเมื่อรุ้แล้วว่าเราอยากจะลงทุนกับกองทุนรวมประเภทไหน ปัญหาต่อมาก็คือ แล้วจะเลือกที่ไหนดีล่ะ นโยบายลงทุนคล้าย ๆ กัน แต่บางที่ Nav สูง บางที่ Nav ต่ำ ควรจะตัดสินใจยังไงดี หลายคนไม่กล้าซื้อกองทุนที่มีราคาต่อหน่วยสูงๆ เพราะกลัวว่าผลตอบแทนจะน้อย บางคนคิดว่ากองทุน 5 บาทกับ 15 บาท ถ้าได้ผลตอบแทน 1 บาทเท่ากัน กองทุนที่มีราคา 5 บาทจะดีกว่า แต่อย่าลืมว่ากองทุนส่วนใหญ่จะมีราคาขายครั้งแรกที่ 10 บาทเท่ากัน หมายความว่ากองทุนที่มีราคามากกว่า 10 บาท ก็คือกำไรที่กองทุนนั้นทำได้ ส่วนกองทุนที่มีราคาต่ำกว่า 10 บาท ก็มองได้ว่า กองทุนนั้นบริหารแล้วขาดทุน!

ตัวอย่าง 1
กองทุน A และกองทุน B เปิดขายกองทุนพร้อมกัน ที่ราคาต่อหน่วยครั้งแรก 10 บาทเท่ากัน นโยบายลงทุนเหมือนกันทุกประการ
เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี กองทุน A มีราคาหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11 บาท ส่วนกองทุน B ราคาหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.5 บาท นั่นก็เท่ากับว่า กองทุน B ให้ผลตอบแทนดีกว่า กองทุน A หรือ ผลการดำเนินการย้อนหลังของกองทุน B ดีกว่ากองทุน A จะเลือกกองทุนไหนดี

ตัวอย่าง 2
กองทุน A ตั้งกองทุนเมื่อ 1 มค 2551 และกองทุน B ตั้งกองทุนเมื่อ 1 มค 2552 ที่ราคาต่อหน่วยครั้งแรก 10 บาทเท่ากัน นโยบายลงทุนเหมือนกันทุกประการ
ปัจจุบันราคาหน่วยลงทุนของ กองทุน A 11 บาท กองทุน B 10.7 บาท ดูกองทุน A จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่เดี๊ยวก่อน กองทุน A ตั้งก่อนกองทุน B เป็นปี ผลตอบแทนมากกว่าย่อมไม่แปลก (ถ้าน้อยกว่านี่เลิกสนใจได้เลย) แต่จะบอกว่าถ้าเจอกรณีแบบนี้ก็ให้วัดกันด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลัง โดยเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันมาวัด

ตัวอย่าง 3
กองทุน A ราคา NAV ปัจจุบันอยู่ที่ 20 บาทต่อหน่วย ส่วนกองทุน B ราคา NAV อยู่ที่ 40 บาทต่อหน่วย นโยบายลงทุนเหมือนกันทุกประการ ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน A อยู่ที่ 12% และ กองทุน B อยู่ที่15%
บางคนอาจจะเลือกกองทุน A เพราะซื้อด้วยเงินเท่ากันแต่ได้จำนวนหน่วยลงทุนเยอะกว่ากองทุน B เป็นเท่าตัว แต่ในความเป็นจริง ผลตอบแทนที่คำนวนมาในรูปของร้อยละ (%) นั้นเค้าคิดเป็นกำไรต่อเงินต้น ซึ่งไม่เกี่ยวว่าจะมีหน่วยมากหรือน้อย ผลตอบแทนที่ % เยอะกว่า ย่อมหมายถึง ผลตอบแทนตัวเงินที่สูงกว่านั่นเอง

นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมจัดการ ค่าธรรมเนียมซื้อขาย ความสะดวกในการซื้อขายหน่วยลงทุน ก็ควรนำมาพิจารณาด้วย ยิ่งถ้าสามารถซื้อขายผ่าน internet ได้ และไม่ค่อยมีปัญหาจะยิ่งทำให้สะดวก รวดเร็วมากๆ

สรุปๆ
- ถ้าจะพูดถึงเรื่องผลกำไรที่มากหรือน้อยนี้ขึ้นกับนโยบายกองทุนที่เลือกนะจ๊ะ เลือกกองทุนที่ลงทุนในหุ้นย่อมมีผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนที่ลงในตราสารหนี้แน่นอน แต่ความเสี่ยงก็มากด้วยเช่นกัน ก่อนตัดสินใจลงทุนอ่านหนังสือชี้ชวนให้ละเอียด
- ถ้าใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินเลือกกองทุน บลจ.ไหนดี ควรนำผลการดำเนินการในอดีตของกองทุนมาเปรียบเทียบ "เป็นกี่%ต่อปี" มากกว่าราคา Nav ที่สูง ต่ำ

งงกันไม๊เนียะ

07 กรกฎาคม 2553

ตลาดนัดกองทุนรวม


มาแล้ว ๆ สำหรับใครที่สนใจ คันไม้คันมืออยากลงทุนไปกับกองทุนรวม แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ลองไปงานนี้ดู

ตลาดนัดกองทุนรวม : Mutual Fund Fair @SIAMPARAGON
8-11 ก.ค.53 นี้ 10.00-20.00 น.ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น M


ที่มา : http://thaimutualfundnews.com/

ภายในงานจะได้พบกับกิจกรรม
• รับคำปรึกษาวางแผนการลงทุนในกองทุนรวม กับ 15 บลจ.ชั้นนำ
• บริการคำนวณภาษีเพื่อลงทุนในกองทุนรวม RMF - LTF
• บริการตรวจเช็คสถานะการลงทุน ผลการดำเนินการกองทุน
• เลือกลงทุนกับกองทุนเปิดใหม่ IPO ( 9 กอง – AYF /BBLAM / Aberdeen / KTAM / K-Asset / TMBAM / SEAMICO / ONEAM )

Promotion พิเศษสำหรับผู้สนใจที่จะลงทุน
- ต่อที่ 1 ทุก บลจ. ได้จัดเตรียมของสมนาคุณสำหรับผู้ลงทุนในงาน
- ต่อที่ 2 ของสมนาคุณจากโครางการให้เงินทำงาน ผ่านกองทุนรวม
- ทุกการลงทุนกองทุนรวมในงาน ไม่ว่าที่ใด เท่าไหร่ รับ กระเป๋ากองทุนรวม
- ลงทุนในกองทุน รวม RMF-LTF รับผ้าขนหนู
- หากอายุ23-30 ปี ที่ลงทุนใน RMF-LTF 50 คนแรกรับ เสื้อยืด MP-MP คนที่ 51 เป็นต้นไปรับ ผ้าขนหนู

เพิ่มเติม
http://www.set.or.th/th/highlight_flash/files/20100621_MutualFundFair.jpg
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9390453/I9390453.html

ขอสั้นๆได้ใจความแค่นี้ก่อนละกันนะสำหรับวันนี้ดึกมากแล้ว
ฝันดีนะคะทุกคน^^

27 มิถุนายน 2553

รหัสลับความรวย


หลายๆ คนอาจจะเคยเจอปัญหาที่หาอ่านหนังสือพวกเงินๆ ทองๆ สไตล์คล้าย ๆจะ How to แต่ก็แอบอ่านเอาเพลินได้ด้วยไม่ค่อยได้ ถ้าไม่หลักการจ๋า ก็หาสาระไม่ค่อยมี น้ำท่วมทุ่งซะเยอะ

วันนี้มีมาแนะนำอีกหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือแปลจากนักเขียนชาวอังกฤษ ซึ่งปกติเราก็ไม่ค่อยถูกชะตากับหนังสือเงินๆทองๆ ที่เขียนโดยคนต่างชาติแล้วแปลมาเท่าไร รู้สึกว่าด้วยระบบการใช้ชีวิต วัฒนธรรมหรืออะไรที่เวลาอ่านแล้วรู้สึกว่ามันแตกต่าง มันไม่ใช่ เอามาปรับใช้ไม่ค่อยได้อ่ะ เคยเป็นกันบ้างหรือเปล่า หรือเราอ่านแล้วนำมาปรับใช้เองไม่เป็นก็ไม่รู้

แต่สำหรับเล่มนี้โอเคเลย ในเล่มจะแบ่งเป็น 5 ส่วน คือ คิดให้รวยขึ้น ,สร้างความมั่งคั่ง ,ทำให้รวยยิ่งขึ้นไปอีก ,รักษาระดับความ,มั่งคั่งเอาไว้ ,แบ่งปันความร่ำรวยให้แก่ผู้อื่น แค่หัวข้อที่แบ่งมาก็น่าอ่านแล้วใช่มะ ใช่ม้า

ถ้ายังไงก็ไปหาอ่านเนื้อหากันตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปเอาเองละกันนะ เขียนมากเดี๊ยวโดนหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์ (หรือเปล่า ?)



ผู้เขียน : Richard Templar
ผู้แปล : จิตรลา สิงห์คำ
จัดพิมพ์โดย : ดีไลท์ พับพลิชชิ่ง
ราคาปก : 185 บาท

ถ้ายืนอ่านแล้วไม่ชอบแนวนี้ก็ไม่ต้องซื้อ ง่าย ๆ ได้ใจความนะค้า อ้อ อย่าประนามนิสัยยืนอ่านของเรานะ เพราะถึงยืนอ่านถ้าหนังสือดีก็ซื้อนะคะ (แม้ว่าจะยืนอ่านจบเล่มแล้วก็ตาม) เพราะพวกนี้ต้องมีการอ่านทบทวนบ่อย ๆ ถึงจะดี


= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

ประกาศจ้า

บล็อกนี้จะไม่เขียนเพิ่มแล้วนะคะจะไปอัพเดทที่เว็บใหม่เลย

แฟนคลับอย่าลืมตามไปให้กำลังใจด้วยน้า

ตามไปอัพเดทบทความใหม่ๆ ได้ที่ www.บริหารเงิน.com นะคะ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =


26 มิถุนายน 2553

ระหว่าง สลากออมสิน กับ สลาก ธกส. อะไรดี


ถ้าอ่านบล็อคเรามาตลอด จะเห็นว่ามีแต่เรื่องสลากออมสิน เชียร์แต่สลากออมสิน ไม่มีเรื่อง สลาก ธกส.เลย เอ่อ ก็ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ได้เป็นญาติกับออมสิน หรือ ได้ประโยชน์อะไร เหตุผลเดียวเลยก็คือเคยใช้บริการสลากออมสินมาก่อน เวลามาเล่าต่อเลยได้เล่าจากประสบการณ์ที่เคยหาข้อมูลและรู้มา แต่สลาก ธกส ไม่เคยซื้อเลยไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไร ไม่กล้าเขียนไรมากกลัวให้ข้อมูลผิด เท่านั้นเอง

ก็คงมีอีกหลาย ๆ คน สงสัยและอยากรู้ ถ้าเกิดเอาสลากออมสิน กับ สลาก ธกส.มาเปรียบเทียบกัน แบบไหนจะดีกว่ากัน

ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไป อิชั้นจัดให้

พอดีว่าเปิดเว็บหาไรอ่านเพลิน ๆ แล้วไปเจอข้อมูลที่ชาวบ้านเค้าทำเปรียบเทียบไว้แล้ว เลยหยิบมาฝาก อันนี้เป็นการเปรียบเทียบของสลากออมสินพิเศษ 3 ปี งวดที่ 41,สลาก ธอส.บัตรเพิ่มทรัพย์ ชุดที่ 5 และก็เงินฝากประจำ 3 ปี


ที่มา : คุณ vi-wow ณ pantip.com

ดูเหมือนว่า ถ้าไม่หวังพึ่งโชค พึ่งรางวัล คิดแบบว่ายังไงก็ต้องได้แน่ๆ ผลตอบแทนจากสลาก ธอส.จะมากกว่าสลากออมสินกรณี ฝาก 1 แสนขึ้นไป แต่ถ้าขึ้นไปถึง 5แสน ไปฝากออมสินดีกว่าไม๊.. อันนี้เราขอไม่พูดถึงฝากประจำแล้วกันนะ เพราะถ้าลองมาเล่นด้านสลากกันแล้ว ก็คงหวังจะได้ลุ้นถูกรางวัลกันทั้งนั้น

อ้อ แต่ถ้าใครมั่นใจว่ามีดวงด้านโชค ซื้อหวยถูกตลอด ๆ นี่ ไม่ต้องกังวลไรเลย เพราะถึงแม้ว่าจะซื้อสลากน้อย มันก็ถูกได้ ซึ่งอันนี้เป็นความสามารถเฉพาะบุคคลอย่างมาก เราก็อยากมีความสามารถแบบนี้เหมือนกัน หุหุ


----------------
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
-สลากออมสินพิเศษ 3 ปี ไม่กินทุน ได้ลุ้นโชค
-ซื้อสลากออมสินดีมั้ย
-ระหว่าง สลากออมสิน กับ สลาก ธกส. อะไรดี
-ตรวจสลากออมสิน

20 มิถุนายน 2553

ซื้อสลากออมสินดีมั้ย


จากครั้งก่อนเขียนเกี่ยวกับรางวัลสลากออมสินพิเศษ 3 ปี งวดที่ 41 ให้อยากซื้อกันไปแล้ว วันนี้ขอโม้ต่ออีกหน่อย เพราะการจะยอมควักเงินออกจากกระเป๋าไปทำอะไรแต่ละทีก็ควรคิดเยอะๆหน่อยจิงไม๊ เงินต้องไปจมกับอะไรบ้าง สมควรแค่ไหน

ถ้าจะถามว่าจะซื้อดีไม๊ ทำไมต้องซื้อ มันเป็นการลงทุนที่เหมาะกับเราหรือเปล่า อันนี้ไม่สามารถบอกได้เหมือนกัน ถ้าคุณมีทางที่ดีกว่านี้ก็จัดไป สลากออมสินอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่..

ถ้าคุณเป็นคนที่มีเงินเย็นเฉียบทิ้งไว้ที่บัญชีออมทรัพท์ นาน น้านจะขุดออกมาใช้ซักที ช่วงเวลา 3 ปีไม่มีเหตุต้องใช้แน่นอน อันนี้แนะนำเลยค่ะ กรณีแบบนี้เหมาะกับคุณแน่ ๆ

เงินทิ้งไว้ที่บัญชีก็ได้ดอกเบี้ยไม่เยอะ ถ้าเทียบเวลา 3 ปี เท่ากัน จำนวนเงินเท่ากัน ดอกเบี้ยจากสลากออมสินได้เยอะกว่าแน่นอน นอกเสียจากว่าคุณหาฝากออมทรัพท์ที่ให้ดอกเบี้ย 1.25% ต่อปี หรือมากกว่านั้นได้ในช่วงนี้ก็แล้วไป และนอกจากได้ดอกเบี้ยที่ดีกว่าในเวลาเท่ากันแล้ว ยังจะได้ลุ้นรางวัลอีกด้วย

ถ้าซื้อด้วยเงิน 100,000 บาท จะซื้อได้ 2,000หน่วย (หน่วยละ 50 บาท) ฝากครบ 3 ปี ได้เงินต้นคืนทั้งหมด+ดอกเบี้ย3,750 บาท ส่วนเงินรางวัลก็แล้วแต่โชคของคุณ

และถ้าเงินมากพอซื้อ 500,000 บาท จะซื้อได้ 10,000 หน่วย ฝากครบ 3 ปี ได้เงินต้นคืนทั้งหมด+ดอกเบี้ย18,750 บาท+รางวัลขั้นต่ำ 10,800 บาท

รางวัลขั้นต่ำมาจากไหน มาจากการที่ เงิน 5 แสนที่เราซื้อ มันคลอบคลุมเลขท้าย 4 ตัวทุกเลข (ที่ราคาหน่วยละ 50 บาท แต่ถ้าราคาหน่วยแพงขึ้นเป็น หน่วยละ 100 บาท ถ้าจะซื้อให้คลอบคลุมก็ต้องซื้อ 1 ล้านบาท)

ฉะนั้นยังไงก็ถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว 2 รางวัล ทุกเดือน รางวัลละ 150 บาท หรือเดือนละ 300 บาท 3 ปี ก็ 10,800 บาท
และที่บอกว่าแค่ขั้นต่ำเพราะใครจะรู้ว่าเราอาจดวงดีถูกรางวัลใหญ่ก็ได้

แล้วถ้าเงินไม่เย็นขนาด 3 ปีล่ะ
โอเค คิดง่ายๆเลย ถ้าฝากแค่ 1 ปี ไม่ถึง 2 ปี แล้วขายคืนก่อน จะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ หน่วยละ 0.5 บาท เทียบง่าย ๆ ก็ร้อยละ 1 บาท ต่อปี (สลากหน่วยละ 50 บาท ซื้อ 100 บาท ได้ดอกเบี้ย 1 บาท) ยังไงก็ยังเยอะกว่าดอกเบี้ยออมทรัพท์ตอนนี้ เงินต้นก็ไม่
ได้โดนหัก มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลตั้ง 1 ปี ไม่มีอะไรจะเสียเลย

จะซื้อสลากออมสินกันได้หรือยัง ^^

----------------
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
-สลากออมสินพิเศษ 3 ปี ไม่กินทุน ได้ลุ้นโชค
-ซื้อสลากออมสินดีมั้ย
-ระหว่าง สลากออมสิน กับ สลาก ธกส. อะไรดี
-ตรวจสลากออมสิน

19 มิถุนายน 2553

ลุ้นไปกับการทายผลบอลโลก 2010


update:12 สค 53
ในที่สุดก็ประกาศแล้วสำหรับรางวัลทายผลบอลโลกกับ นสพ ไทยรัฐ หลังจากที่รอคอยกันมานานแสนนานอย่างไม่มีจุดหมาย ดูซิสมกับการรอคอยหรือเปล่า ลองตรวจสอบรายชื่อกันละกันนะ เผื่อจะเป็น 1ในผู้โชคดี http://www.thairath.co.th/event/30mpostcard

อิจฉาน้องที่ได้ 10 ล้านจิงจิ๊ง ขอให้หนูบริหารเงินดีๆ แล้วจะสบายไปอีกนาน
---------------------------------------------------------------

แหะๆๆ ไหนๆ บล็อคเราก็ว่าด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ช่วงนี้กระแสบอลโลกมาแรงก็ขออินเทรนด์หน่อยละกันโนะ

"เวิร์ลคัพ 2010" ที่จะแข่งขันที่ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.– วันที่ 11 ก.ค. ช่วงเวลาสนุกสนาน 1 เดือนนี้ เรามาลองลุ้นทายผลไปกับมันด้วยดีกว่า เผื่อจะมีไรตื่นเต้น ตื่นเต้นเพิ่มขึ้นไปอีก เห็นหลาย ๆ ที่จัดโครงการทายผลบอลโลกกันเพียบไปหมด ตามร้าน ตามเว็บ โน่น นี่ นั่น วันนี้ก็เลยเอาบางส่วนที่จัดโครงการมานำเสนอ รักชอบแบบไหนก็จัดไปเล้ย

1. ทายผลบอลโลกผ่านไปรษณียบัตรกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กับโครงการทายผลแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ชิงเงินรางวัล 30 ล้านบาท

รางวัล
รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 10 ล้านบาท 1 รางวัล
รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 1 ล้านบาท 10 รางวัล
รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 100,000 บาท 100 รางวัล
และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

กติกาการร่วมสนุก
1. ส่งไปรษณียบัตรทายว่า "ทีมชาติใด" จะเป็น "แชมป์ฟุตบอลโลก 2010"
2. ทายผล 1 ทีม ต่อ 1 ไปรษณียบัตร
3. ส่งไปรณียบัตรได้ไม่จำกัดจำนวน
4. ส่งมาที่ สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เลขที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900

* หมดเขตส่งไปรษณียบัตรวันที่ 10 ก.ค. 2553 (ไม่เกิน 18.00 น ) โดยถือเอาวันประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ*

2. "ลุ้นแชมป์บอลโลก ลุ้นโชคกับเดลินิวส์" โดยตัดคูปองหนังสือพิม์ทายทีมแชมป์บอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 41 ล้านบาท

รางวัลที่ 1 บ้านพร้อมที่ดิน 67.70 ตารางวา บ้านธารารมณ์ โครงการเนเบอร์โฮม ถนนสุขาภิบาล 5 แบบบ้าน Clover จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 5,000,000 บาท
รางวัลที่ 2 รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่น PAJERO SPORT 2.5 GT 2WD A/T จำนวน 2 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 1,097,000 บาท รวม 2,194,000 บาท
รางวัลที่ 3 รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่น LANCER 1.8 GLS A/T (MIVEC FFV) E85 จำนวน 4 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 886,000 บาท รวม 3,544,000 บาท
รางวัลที่ 4 รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ รุ่น TRITON PLUS DOUBLE CAB 2.5 GLS Di-D A/T จำนวน 3 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 784,000 บาท รวม 2,352,000 บาท
รางวัลที่ 5 รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ รุ่น TRITON PLUS MEGA CAB 2.5 GLS Di-D M/T จำนวน 3 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 664,000 บาท รวม 1,992,000 บาท
รางวัลพิเศษ รถยนต์เกียร์ รุ่น Carens จำนวน 2 รางวัล มูลค่ารางวัลละ1,190,000 บาท รวม 2,380,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลทองคำแท่งหนัก 15 บาท ,10 บาท, 5 บาท, รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า, กล้องถ่ายรูปแคนนอน, โทรศัพท์มือถือแบล็คเบอร์รี่, สร้อยคอทองคำ สรุปรวมทั้งสิ้นมี 919 รางวัล รวมมูลค่าสูงถึง 41,000,990 บาท

กติกา
เพียงตัดคูปองหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่อยู่ที่หน้า 1 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเขียนทายว่า “ทีมใดเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010” พร้อมทั้งเขียนชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ให้ชัดเจน

ส่งชิ้นส่วนมาที่ ตู้ ปณ.401 ปณจ. หลักสี่ กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10210
หรือจะใส่กล่องรับชิ้นส่วนที่หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เลขที่ 1/ 4 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
หรือกล่องรับชิ้นส่วนที่ตั้งไว้ที่ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ทั่วประเทศ

สิ้นสุดการรับ วันที่ 10 กรกฎาคม โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ
จับรางวัลในวันที่ 20 กรกฎาคม และประกาศรายชื่อผู้โชคดีทางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 25 กรกฎาคม และ www.dailynews.co.th.

3. อยากรวยกับค่ายไหนไปรษณีย์จัดให้

มีอีกหลายๆ ที่ที่ไปรณีย์บัตรจัดให้ ร่วมด้วยช่วยกันทายผลบอลโลก เอามาให้ดูเป็นน้ำจิ้ม อยากได้แบบไหนก็หารายละเอียดต่อกันเอาเองน้า





วันนี้ไปละ
ปล. ไม่สนับสนุนให้เล่นพนันโต๊ะบอลนะจ๊ะ

13 มิถุนายน 2553

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก


สำหรับใครที่แบ่งเงินส่วนนึงไว้ในบัญชีออมทรัพท์ หรือกลัวความเสี่ยงมากไม่กล้าโยกย้ายเงินไปลงทุนหรือทำอย่างอื่นที่เสี่ยงกว่านี้ ปักใจยังไงก็ไว้ใจว่าฝากธนาคารปลอดภัยที่สุดแล้ว ก็อยากให้สนใจกันนิดนึงเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ไหนๆก็มีเงินฝากออมทรัพท์แล้วก็อย่าปล่อยให้มันนอนรออัตราดอกเบี้ยแบบไม่รู้ชะตากรรม ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยช่วงนี้มันจะดูน้อยยยย... ต่ำเตี้ยเสียเหลือเกิน แต่ก็อย่าได้ละเลย เก็บได้เป็นเก็บนะจ๊ะ เก็บให้ได้ทุกเม็ด ฮ่าๆๆ

ลองเปรียบเทียบให้ดู แค่อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนนิดนึง ดอกเบี้ยก็ได้เพิ่มแล้ว สำหรับใครที่เงินในบัญชีไม่เยอะ ผลต่างนิดหน่อย อาจจะไม่ค่อยมีผลเท่าไร อันนี้ทิ้งไว้แบบเดิมก็ได้ แต่สำหรับคนที่มีเงินฝากทิ้งอยู่ในบัญชีเยอะๆเนียะ ผลต่างของดอกเบี้ยก็มากอยู่นา



ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องหันมาสนใจ และมองหาแหล่งที่ฝากเงินกันใหม่

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าจะไปหาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยเงินฝากได้ที่ไหน ขอแนะนำไปดูที่เว็บธนาคารแห่งประเทศไทยได้เลยค่ะ

ตามลิงก์ไปเล้ย
http://www.bot.or.th/thai/statistics/financialmarkets/interestrate/_layouts/application/interest_rate/IN_Rate.aspx

เปรียบเทียบให้เห็นกันจะๆ เอาไว้ดูคร่าว ๆ ว่าธนาคารไหนให้อัตราดอกเบี้ยดีที่สุด แล้วค่อยไปดูตามเว็บธนาคารอีกที จะได้คัดกรองการเปิดเว็บไปได้นิดนึง ย่นระยะเวลา

จริงๆสำหรับใครที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้เท่าไรพูดง่าย ๆ คือ เป็นเงินเย็น ขอแนะนำการฝากประจำ หรือฝากแบบปลอดภาษีแทน ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าฝากออมทรัพย์ขึ้นไปอีก แล้ววันหน้าจะเอาข้อมูลมาฝากนะจ๊ะ

ขอให้มีความสุขกับตัวเลขในบัญชี ^^

12 มิถุนายน 2553

ดิฉัน สวย รวย งก


วันนี้อิชั้นมีหนังสือมาแนะนำ ... โอ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด เราไม่ได้จะเปลี่ยนแนวการเขียนนะจ๊ะ ยังมาทางเดิมอยู่ ยังยึดมั่นอยู่กะเรื่องเงินๆทองๆ เหมือนเดิม แฟนคลับไม่ต้องตกใจไป เพียงแต่ว่าสำหรับเล่มนี้เป็นอีกเล่มนึงที่อ่านแล้วอยากบอกต่อ อยากให้อีกหลายๆคนได้อ่านโดยเฉพาะสาวๆขาช็อปทั้งหลาย

โดยตัวหนังสือไม่ได้สอนว่าคุณต้องทำยังไงถึงจะจัดการหนี้สินที่เกิดขึ้นมาได้ ไม่ได้บอกวิธีการประหยัดแบบหลักการมากๆอย่างหนังสือฮาวทูการเก็บเงินทั่วไป แต่เป็นลักษณะการเล่าเรื่องซะมากกว่า ออกแนวสนุกๆ

หนังสือบอกเล่าเรื่องราวโดยผ่านตัวเอกของเรื่อง "โอ๋" สาวสวยแต่งตัวเนี้ยบ มาดไฮโซ ทั้งๆ ที่ตัวตนของเธอนั้นจัดเป็นคนที่อยู่ในชนชั้นกลางๆ ของสังคม แต่ยอมไม่ได้ถ้าจะต้องโดนคนอื่นมองว่าเธอไม่มี ด้วยความเชื่อผิดๆ ที่ฝังใจมาว่า เราต้องดูดีมีเงิน คนถึงจะรักและเคารพเรา จึงยอมเป็นหนี้เพื่อหาซื้อของไร้สาระมาประโคมกาย เรื่องราวของโอ๋อาจจะไปโดนกะชีวิตจริงของหลายๆคนเข้าอย่างจัง





ชื่อหนังสือ : ดิฉัน สวย รวย งก
ผู้เขียน : สิรินทร์ วงศ์พานิช
สำนักพิมพ์ : วงกลม
ราคาหน้าปก : 160 บาท

หนังสือเล่มนี้อันที่จริงก็ออกมานานหลายปีแล้วล่ะ จนจะลืมอยู่แล้ว พอดี๊ว่า เดือนก่อนไปเจอหนังสือภาค 2 ของดิฉันสวย รวย งก เข้า เลยนึกขึ้นได้ เสียดายเหมือนกันว่า เล่มแรกที่เราซื้อมาแล้วก็ใจดีแบ่งปันให้คนโน้นคนนี้ยืมอ่าน ยืมกันไป ยืมกันมา หายซะง้าน พอมาเล่ม 2 นี้ ได้มาแล้วใครยืมนี่จดไว้เลยเพื่อสะดวกต่อการทวงคืน หุหุ แอบเขี้ยวเล็กๆ

สำหรับใครที่อ่านแล้วติดใจเล่มแรก ก็อย่าพลาดอีกเล่มนะจ๊ะ เจ้าเดียวกัน ทั้งผู้เขียน และสำนักพิมพ์ แต่ราคาหน้าปกจะเป็น 240 บาทอ่ะนะ ชื่อหนังสือ คู่มือเก็บเงินแบบง่าย ๆ





ก็อย่างที่บอกว่าเป็นเล่มต่อ เรื่องราวก็เลยประมาณว่าหลังจากหาทางใช้หนี้แล้ว สาวโอ๋ก็ลุกขึ้นหาข้อมูลถึงเรื่องราวต่างๆที่ต้องรู้มากขึ้น จนกลายเป็นกูรูให้กับตัวเองและเพื่อนๆ เช่น การกู้เงินซื้อคอนโด การซื้อรถแบบคุ้มๆ การทำประกันชีวิต การวางแผนการเงิน แม้แต่การแลกแต้มบัตรเครดิต

และด้วยประโยคเด็ดจากหนังสือเล่มนี้ "คนรวยเขาไม่สะสมเสื้อยืดกันหรอก" ที่คุณเพื่อนสนิทเรายืมไปอ่านแล้วมาแอบกัดเราตอนช็อป

เหอๆๆ แนะนำ ๆ


ปล. ไม่ได้ค่าโฆษณาซักกะบาท


= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

ประกาศจ้า

บล็อกนี้จะไม่เขียนเพิ่มแล้วนะคะจะไปอัพเดทที่เว็บใหม่เลย

แฟนคลับอย่าลืมตามไปให้กำลังใจด้วยน้า

ตามไปอัพเดทบทความใหม่ๆ ได้ที่ www.บริหารเงิน.com นะคะ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =


05 มิถุนายน 2553

เปิดจองแล้วกับพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง


15มิย53 อัพเดทอีกรอบจ้า
ขยายเวลาถึง 16มิย นี้นะจ๊ะ แต่ต้องเป็นเงินสดหรือตัดบัญชี ไม่รับเป็นเช็คแล้วน้า

****************************


ขออัพเดทต่อจากครั้งก่อนที่เคยเขียนไว้
"พันธบัตรไทยเข้มแข็ง 2 มาแล้วจ้า"

หลังจากที่เจอโรคเลื่อนไปเนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบ ตอนนี้พันธบัตรออมทรัพย์กำหนดวันเปิดจองแล้วจ้า คือวันที่ 7-11 มิถุนายน 2553 โดย

วันที่ 7-8 มิ.ย. เฉพาะผู้สูงอายุ
(อายุ 60 ปีขึ้นไป คือเกิดก่อนหรือภายใน พศ 2493)
วันที่ 9-11 มิ.ย. ถ้าล็อตแรกเหลือ ให้บุคคลทั่วไปรวมทั้งผู้สูงอายุซื้อได้
ซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยซื้อเป็นจำนวนเท่าของ 10,000 บาท แต่ไม่เกิน100เท่า

ดอกเบี้ย จ่ายปีละ 2 งวด วันที่ 9 ธันวาคม และ 9 มิถุนายน ของทุกปี การโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชี ขึ้นกับค่าธรรมเนียมของธนาคาร และหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้วทุกครั้งที่มีการจ่ายดอกเบี้ย บุคคลธรรมดาสามารถเลือกนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ ณ สิ้นปีได้

สามารถยื่นคำเสนอขอซื้อพันธบัตรได้ที่ธนาคารตัวแทนจำหน่าย 12 แห่ง

สามารถจองซื้อ ได้ด้วย
- เงินสด
- เงินโอน
- เช็ค ส่วนตัว
- แคชเชียร์เช็ค
- ดร๊าฟท์
แต่อาจมีค่าธรรมเนียมจากการจองซื้อที่ไม่ใช่เงินสด อันนี้แล้วแต่แต่ละธนาคาร

บอกรายละเอียดคร่าว ๆแค่นี้ละกัน ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยเข้าไปอ่านกันเองนะ ละเอียดครบถ้วนทุกกระบวนความเลย

พันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 1
http://www.bot.or.th/Thai/FinancialMarkets/DebtSecurities_SalestoIndividuals/SaleBond/Doc_LibSaleBond/Thaikemkhang53_SumPropectus.pdf

สรุปข้อมูลสำคัญ โดย กระทรวงการคลัง
http://www.bot.or.th/Thai/FinancialMarkets/DebtSecurities_SalestoIndividuals/SaleBond/Doc_LibSaleBond/Thaikemkhang53_Propectus.pdf

ใครสนใจอย่าช้านะจ๊ะ

29 พฤษภาคม 2553

กองทุนรวม ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด


สำหรับมือใหม่ที่อยากหาวิธีทำเงินให้งอกเงย เรามีอีกทางเลือกมานำเสนอ นั่นก็คือ .... กองทุนรวม

เคยเป็นกันไม๊คะ ที่เห็นคนเล่นหุ้นเค้ารวยกันจัง แล้วก็เกิดอาการอยากเล่นมั่ง แต่ยังไงอ่ะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แต่ว่าอยากลงทุน อยากรวย กองทุนรวมตอบโจทย์ได้ค่ะ ถ้าสามารถแล้ว กล้าได้กล้าเสียมากแล้ว เข้าใจอาการตลาดหุ้นแล้ว เราค่อยเขยิบไปเล่นหุ้นกัน ^^

คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินหลักหมื่น หลักแสน แค่หลักพันก็เล่นได้
คุณไม่ต้องนั่งลุ้นทุกวินาทีแบบหุ้น ขยายเวลาหายใจได้เต็มปอดแบบวันต่อวัน
สามารถเลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงที่ต้องการ ตั้งแต่เสี่ยงน้อย (ที่ใกล้เคียงกับการฝากเงินธนาคาร) ถึง เสี่ยงมาก (ที่ใกล้เคียงกับการเล่นหุ้น)
สามาถซื้อขายได้หลายทาง จะไปที่ บลจ เอง (บางที่ก็ซื้อที่ธนาคารได้เลย) หรือว่า ซื้อผ่านโทรศัพท์ หรือผ่านทางอินเตอร์เน็ต ก็ง่ายแสนง่าย
ผลตอบแทนที่ได้ ในส่วนต่างราคาไม่เสียภาษีนะคะ

ถ้าจะให้มาอธิบายว่ากองทุนคืออะไร กองทุนเปิดคืออะไร กองทุนปิดคืออะไร เราก็กลัวจะอธิบายผิดเพี้ยนอ่ะนะ ใครอยากรู้รายละเอียดพวกนั้นก็หาเพิ่มเติมเอาเองละกัน บางประโยค ภาษาไทยแปลเป็นไทยอีกสองตลบอ่านก็ยังไม่เข้าใจ แบบว่าเราก็ไม่ได้อยู่แวดวงการเงินมาอะนะ มันก็เป็นความสามารถเฉพาะบุคคลในการทำความเข้าใจ

ฉะนั้นอย่ากระนั้นเลย มาเรื่องที่เราควรจะรู้กันดีกว่า นั่นก็คือ กองทุนมีมากมายให้เราเลือกลงทุน อันไหนมันเหมาะกับเรา เช่น

- มีความคิดอยากซื้อทองเก็งกำไร เราก็มีกองทุนทอง จัดให้ ไม่ต้องเสียค่ากำเน็จ ไม่ต้องคอยพะวงจะโดนขโมยทอง
- มีความคิดอยากลงทุนซื้อคอนโดให้เช่า เราก็มีกองทุนอสังหา จัดให้ ไม่ต้องเอาเงินหลักแสน หลักล้านไปเป็นเงินจมซื้อตึก หรือบ้านให้เช่า
- เห็นราคาน้ำมันมันขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วคันไม๊คันมือ ก็มี กองทุนน้ำมัน จัดให้
- อยากซื้อพันธบัตรเพราะเสี่ยงน้อยดี แต่ไม่อยากถือนาน เราก็มีกองทุนตราสารหนี้ จัดให้ สภาพคล่องดีกว่า แต่ความเสี่ยงไม่ต่างกัน (ความเห็นส่วนตัวเรา ตั้งแต่ศึกษามายังไม่คิดว่ากองทุนนี้มันเสี่ยงตรงไหนเลย บวกตลอด)
- อยากเล่นหุ้น แต่ไม่มีเวลาดู ไม่รู้จะซื้อตัวไหนดี เราก็มีกองทุนหุ้น จัดให้

อย่างที่บอกว่ากองทุนมีมากมาย ขึ้นกับความต้องการของเรา เราสนใจเรื่องอะไร ยอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน แต่ละกองทุนเค้าก็จะมีหนังสือชี้ขวน บอกรายละเอียดต่างๆ ชัดเจน รวมถึงกองทุนที่เราซื้อเสี่ยงอยุ่ในระดับไหน เดี๊ยวบทความต่อๆไปจะหาวิธีเริ่มต้น และตัวอย่างกองทุนต่างๆ มาให้อ่านกันนะจ๊ะ วันนี้ยั่วกิเลสไว้แค่นี้ก่อน อิอิ

**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน** 

22 พฤษภาคม 2553

สลากออมสินพิเศษ 3 ปี ไม่กินทุน ได้ลุ้นโชค


สลากออมสินพิเศษ อายุ 3 ปี งวดที่ 41
ซื้อเร็ว ถูกเร็ว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 กพ 54 (สอบถามเพิ่มเติมที่ 1115)

เอารายละเอียดมาฝากเห็นว่า ไม่กินทุน ได้ลุ้นโชคด้วย ไม่มีไรจะเสียอยู่แล้ว ใครมีดวงด้านเสี่ยงโชคเนียะ น่าลุ้น หลังๆ มานี่คนเล่นกันไม่ได้หวังดอกเบี้ยหรอก เรารู้ ฮ่าๆๆ ส่วนใหญ่ก็อยากได้รางวัลใหญ่ อย่างรอบที่แล้ว สลากออมสินพิเศษ 5 ปี ก็หวังเบนซ์กันทั้งนั้น รางวัลอื่นได้อะไรแทบจะไม่มีใครจำได้ ครั้งนี้เราก็หวังคอนโดนะเนียะ เหอๆๆ

สลากออมสินพิเศษงวดใหม่นี้ มีอายุ 3 ปี รับฝากหน่วยละ 50 บาท ถอนก่อนกำหนดไม่โดนหักเงินต้น โดยจะมีผลตอบแทนให้ถึง 3 ต่อ

ต่อที่ 1
ฝากครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.50 บาท ฝากครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 1.125 บาท ฝากครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 1.875 บาท หรือถ้าซื้อครบ 500,000 บาท หรือ 10,000 หน่วย ก็จะได้รับดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 2.3% ผู้ฝากสามารถไถ่ถอนสลากได้ก่อนครบอายุ เพียงแต่ฝากตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป
เงื่อนไขการถอนคืน
• ฝากครบ 3 ปี รับเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 51.875 บาท
• ฝากครบ 2 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี รับเงินคืนหน่วยละ 51.125 บาท
• ฝากครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 2 ปี รับเงินคืนหน่วยละ 50.50 บาท
• ฝากครบ 3 เดือน แต่ไม่ครบ 1 ปี รับเงินคืนหน่วยละ 50 บาท

ต่อที่ 2
ผู้ฝากจะมีสิทธิลุ้นถูกรางวัลจากการออกรางวัลเลขสลากทุกวันที่ 16 ของเดือน เป็นเวลา 36 เดือนติดต่อกัน โดยมีรางวัลสูงสุด รางวัลที่ 1 มูลค่าเงินรางวัลสูงสุด 10 ล้านบาท จำนวน 2 รางวัล
มูลค่าเงินรางวัลสลากออมสินพิเศษ



ต่อที่ 3
มอบสิทธิลุ้นรับรางวัลพิเศษทุกวันที่ 16 ของเดือนเป็นเวลา 9 เดือนติดต่อกัน รวมจำนวน 12 รางวัล เริ่มครั้งแรกวันที่ 16 มิถุนายนนี้

"แบงก์ออมสินได้จัดของรางวัลให้เลือกถึง 3 แบบ มูลค่ารางวัลละ 1.2 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 14 ล้านบาท ได้แก่
1. คอนโดมิเนียม
2. ทองคำ และ
3. รถยนต์ดัดแปลงเพื่อการพาณิชย์พร้อมทองคำ


โดยผู้มีสิทธิลุ้นรางวัลจะต้องฝากสลากออมสินพิเศษ ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม 53 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 54 โดยจะต้องมีเงินฝากในบัญชีเผื่อเรียกของธนาคารออมสินในวันจับรางวัลตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป

สิทธิประโยชน์
• มอบเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ โดยระบุชื่อผู้รับได้
• โอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้
• เงินรางวัลและเงินต้นแม้สลากครบอายุแล้ว ยังสามารถรับคืนได้ภายในระยะเวลา 10 ปี
• ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อจากธนาคารออมสิน หรือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตัวในชั้นศาล และชั้นสอบสวน
• สามารถใช้บริการฝากสลากผ่านระบบ INTERNET ได้

*ผู้ฝากใหม่โปรดนำบัตรประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านมาด้วย

http://www.gsb.or.th/lottery/special/index.php

----------------
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
-สลากออมสินพิเศษ 3 ปี ไม่กินทุน ได้ลุ้นโชค
-ซื้อสลากออมสินดีมั้ย
-ระหว่าง สลากออมสิน กับ สลาก ธกส. อะไรดี
-ตรวจสลากออมสิน