11 กรกฎาคม 2553

ราคากองทุนต่างกัน เลือกกองทุนไหนดี


ต่อยอดจากครั้งที่แล้ว ถ้าใครไปงานตลาดนัดกองทุนรวมมา หรือมือใหม่มากๆ อาจมีงงกันได้ อะไรเนียะ กองทุนเยอะไปหมด แล้วจะเลือกอะไรดี

สิ่งแรกเลย คือเลือกกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนตรงกับความต้องการของเราก่อน เช่น ยอมรับความเสี่ยงได้น้อยมาก แต่ก็อยากได้ผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์อาจจะไปเล่นกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร หรือยอมรับความเสี่ยงสูงได้ แต่ไม่มีเวลานั่งดูหุ้นก็อาจเลือกกองทุนที่ลงทุนในหุ้น ไรพวกนี้ เป็นต้น

ซึ่งเมื่อรุ้แล้วว่าเราอยากจะลงทุนกับกองทุนรวมประเภทไหน ปัญหาต่อมาก็คือ แล้วจะเลือกที่ไหนดีล่ะ นโยบายลงทุนคล้าย ๆ กัน แต่บางที่ Nav สูง บางที่ Nav ต่ำ ควรจะตัดสินใจยังไงดี หลายคนไม่กล้าซื้อกองทุนที่มีราคาต่อหน่วยสูงๆ เพราะกลัวว่าผลตอบแทนจะน้อย บางคนคิดว่ากองทุน 5 บาทกับ 15 บาท ถ้าได้ผลตอบแทน 1 บาทเท่ากัน กองทุนที่มีราคา 5 บาทจะดีกว่า แต่อย่าลืมว่ากองทุนส่วนใหญ่จะมีราคาขายครั้งแรกที่ 10 บาทเท่ากัน หมายความว่ากองทุนที่มีราคามากกว่า 10 บาท ก็คือกำไรที่กองทุนนั้นทำได้ ส่วนกองทุนที่มีราคาต่ำกว่า 10 บาท ก็มองได้ว่า กองทุนนั้นบริหารแล้วขาดทุน!

ตัวอย่าง 1
กองทุน A และกองทุน B เปิดขายกองทุนพร้อมกัน ที่ราคาต่อหน่วยครั้งแรก 10 บาทเท่ากัน นโยบายลงทุนเหมือนกันทุกประการ
เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี กองทุน A มีราคาหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11 บาท ส่วนกองทุน B ราคาหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.5 บาท นั่นก็เท่ากับว่า กองทุน B ให้ผลตอบแทนดีกว่า กองทุน A หรือ ผลการดำเนินการย้อนหลังของกองทุน B ดีกว่ากองทุน A จะเลือกกองทุนไหนดี

ตัวอย่าง 2
กองทุน A ตั้งกองทุนเมื่อ 1 มค 2551 และกองทุน B ตั้งกองทุนเมื่อ 1 มค 2552 ที่ราคาต่อหน่วยครั้งแรก 10 บาทเท่ากัน นโยบายลงทุนเหมือนกันทุกประการ
ปัจจุบันราคาหน่วยลงทุนของ กองทุน A 11 บาท กองทุน B 10.7 บาท ดูกองทุน A จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่เดี๊ยวก่อน กองทุน A ตั้งก่อนกองทุน B เป็นปี ผลตอบแทนมากกว่าย่อมไม่แปลก (ถ้าน้อยกว่านี่เลิกสนใจได้เลย) แต่จะบอกว่าถ้าเจอกรณีแบบนี้ก็ให้วัดกันด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลัง โดยเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันมาวัด

ตัวอย่าง 3
กองทุน A ราคา NAV ปัจจุบันอยู่ที่ 20 บาทต่อหน่วย ส่วนกองทุน B ราคา NAV อยู่ที่ 40 บาทต่อหน่วย นโยบายลงทุนเหมือนกันทุกประการ ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน A อยู่ที่ 12% และ กองทุน B อยู่ที่15%
บางคนอาจจะเลือกกองทุน A เพราะซื้อด้วยเงินเท่ากันแต่ได้จำนวนหน่วยลงทุนเยอะกว่ากองทุน B เป็นเท่าตัว แต่ในความเป็นจริง ผลตอบแทนที่คำนวนมาในรูปของร้อยละ (%) นั้นเค้าคิดเป็นกำไรต่อเงินต้น ซึ่งไม่เกี่ยวว่าจะมีหน่วยมากหรือน้อย ผลตอบแทนที่ % เยอะกว่า ย่อมหมายถึง ผลตอบแทนตัวเงินที่สูงกว่านั่นเอง

นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมจัดการ ค่าธรรมเนียมซื้อขาย ความสะดวกในการซื้อขายหน่วยลงทุน ก็ควรนำมาพิจารณาด้วย ยิ่งถ้าสามารถซื้อขายผ่าน internet ได้ และไม่ค่อยมีปัญหาจะยิ่งทำให้สะดวก รวดเร็วมากๆ

สรุปๆ
- ถ้าจะพูดถึงเรื่องผลกำไรที่มากหรือน้อยนี้ขึ้นกับนโยบายกองทุนที่เลือกนะจ๊ะ เลือกกองทุนที่ลงทุนในหุ้นย่อมมีผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนที่ลงในตราสารหนี้แน่นอน แต่ความเสี่ยงก็มากด้วยเช่นกัน ก่อนตัดสินใจลงทุนอ่านหนังสือชี้ชวนให้ละเอียด
- ถ้าใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินเลือกกองทุน บลจ.ไหนดี ควรนำผลการดำเนินการในอดีตของกองทุนมาเปรียบเทียบ "เป็นกี่%ต่อปี" มากกว่าราคา Nav ที่สูง ต่ำ

งงกันไม๊เนียะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น